"อภิสิทธิ์" ส่อวืด เก้าอี้หัวหน้าปชป. หลัง ยึดข้อบังคับเดิม สัดส่วน 70:30
"ปชป." เดินหน้าประชุมเฟ้น "หัวหน้าพรรค" คนใหม่ ใช้น้ำหนักคะแนน 70:30 - "สาธิต" ยอมรับ "อภิสิทธิ์" อาจไม่ได้คัมแบ็ก
การประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกตำแหน่งหัวหน้าพรรคปชป. ในวันนี้ (9 ก.ค.) โดยมีรายงานจากที่ประชุมว่า นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอให้ที่ประชุมงดเว้นข้อบังคับการประชุม ข้อที่ 37 ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในกรณีที่กรรมการบริหารพรรคชุดเก่า พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน เพื่อเลื่อนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่า หากยังดำเนินการประชุมต่อไป ก็จะทำให้เกิดผลกระทบภายในพรรค ทำให้เกิดผู้แพ้-ผู้ชนะ แต่หากเลื่อนการประชุมออกไปก่อน ให้สมาชิกได้มีการพูดคุยกัน ก็จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ชนะไปด้วยกัน เพื่อปูทางเป็นชัยชนะคู่แข่งทางการเมืองในอนาคต พร้อมยืนยันว่า การเสนอให้เลื่อนการประชุมครั้งนี้ ไม่ได้คำนึงถึงท่าทีรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ เลือกที่จะเป็นฝ่ายค้านแล้วจะให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาเป็นผู้นำพรรคอีกครั้ง เพียงแต่เห็นว่า หากมีการพูดคุยกันภายในพรรคให้ตกผลึกมากกว่านี้ ความขัดแย้งต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นและทำให้เกิดความร่วมมือกันภายในพรรคให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีการลงมติว่าจะให้งดข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ข้อดังกล่าว เพื่อเลื่อนการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกไปก่อนหรือไม่ โดยผลการลงมติปรากฏว่าสัดส่วนคะแนนมีไม่เพียงพอที่จะเลื่อนการประชุมครั้งนี้ออกไป จึงทำให้ต้องดำเนินการประชุมต่อ
จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคฯ เสนอต่อที่ประชุมให้งดใช้ข้อบังคับพรรคฯ ในข้อที่ 137 ที่กำหนดน้ำหนักคะแนนในการลงมติเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ 25 คน ขณะนี้ จะมีน้ำหนักคะแนนร้อยละ 70 แต่อดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี อดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และอดีตหัวหน้าพรรคฯ จะมีน้ำหนักคะแนนเพียงร้อยละ 30 ซึ่งผลการลงมติปรากฏว่า สัดส่วนคะแนนมีไม่เพียงพอที่จะปรับสัดส่วนน้ำหนักคะแนน จึงทำให้ผลคะแนนในการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ยังต้องดำเนินการต่อไปบนสัดส่วนคะแนน 70:30
อย่างไรก็ตาม นายสาธิต ได้กล่าวภายหลังที่ประชุมมีมติดังกล่าวว่า จะทำให้น้ำหนักคะแนนไปขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ส.ส.ปัจจุบันของพรรค 25 คน ดังนั้น จึงอาจทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ ที่จะมีสมาชิกพรรคฯ เสนอชื่อเพื่อกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ได้ แต่ก็จะต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่า จะมีการเสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคฯ อย่างไร หรือจะมีใครถอนตัวหรือไม่
ทั้งนี้ การประชุมพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ เป็นการประชุมลับตามที่ นายธนา ชีรวินิจ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ที่ประชุมเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินไปแบบลับ ไม่ให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมครั้งนี้ด้วย เนื่องจาก กังวลว่า จะมีการตีความการแสดงความเห็นของสมาชิกผิดพลาด