ด้อมส้มระอุแล้ว "เจี๊ยบ ก้าวไกล" เตือน ส.ว.โหวต "พิธา" นายกฯ

ด้อมส้มระอุแล้ว "เจี๊ยบ ก้าวไกล" เตือน ส.ว.โหวต "พิธา" นายกฯ

"เจี๊ยบ -ก้าวไกล " ลั่น อารมณ์ ด้อมส้ม เริ่มระอุ เตือน ส.ว. ไม่เคารพเจตจำนงประชาชนโหวตเลือก "พิธา" เป็นนายกฯ มี "ม็อบ "แน่

เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 13 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ บริเวณด้านข้างรัฐสภา (ถนนทหาร) ทางกลุ่มผู้ชุมนุม ยังคงอยู่ระหว่างจัดตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ภายใน ศูนย์ราชการ กรุงเทพมหานคร(เกียกกาย) ซึ่งจาก การพูดคุยระหว่างตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม กับผู้อำนวยการเขตดุสิต ระบุว่า ตามที่ได้มีการขอใช้สถานที่ในการชุมนุมทางการเมืองนั้น ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้อนุญาตให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุม ทำกิจกรรมได้เฉพาะบนพื้นถนนเท่านั้น แต่ในพื้นที่สวน ของศูนย์ราชการฯ เป็นเขตนอกเหนือพื้นที่ในการขออนุญาต  

โดยผลการเจรจา ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังยืนยันจะตั้งเวที อยู่บริเวณเดิม และจะไม่ย้ายตามคำแนะนำของผู้อำนวยการเขต ซึ่งมวลชนยังอยู่ระหว่างพักผ่อน และจับกลุ่มพูดคุยในประเด็นทางการเมือง รวมถึงการ ติดตามการอภิปรายในสภา

จากนั้น น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาในพื้นที่ศูนย์ราชการ กรุงเทพมหานคร(เกียกกาย) กล่าวว่า ตนได้เดินทางมาประสานงานในฐานะทีมงานการเมืองของรองประธานสภาคนที่ 1 และรองประธานสภาคนที่ 2 ที่ได้รับมอบหมายดูแลเรื่องความปลอดภัยและเป็นผู้ที่ขอใช้สถานที่ที่นี้ ซึ่งเมื่อสักครู่มีความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย ซึ่งทางผู้อำนวยการเขตดุสิตได้ ให้ใช้พื้นที่การชุมนุมเฉพาะบนถนนภายในศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร(เกียกกาย) เท่านั้นแต่ตอนที่เราได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ ทั้งหมดซึ่งสามารถจุคนได้จำนวน 4,000 คน  ส่วนตนได้เดินทางมาประสานเป็นที่เรียบร้อยและสามารถใช้พื้นที่ได้ทั้งหมด รวมถึงสนามที่ใช้จะเป็นเวทีใหญ่ด้วย ซึ่งบริเวณด้านหน้าก็มีพ่อค้าแม่ขายมาจอดรถขายของเป็นจำนวนมากตนก็จะออกไปเจรจาเพื่อที่จะให้นำรถพยาบาลจำนวนสองคันมาสแตนด์บายไว้ในพื้นที่ด้วย 

 

เมื่อถามว่ากังวลในเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุมหรือไม่น.ส.อมรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการเลือกตั้งเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วตนก็หวังว่าส.ว. ทั้งหลายจะเคารพ การตัดสินใจของประชาชน เท่าที่ตนฟังอารมณ์ของมวลชนก็ระอุ นิด้าโพล ที่มีผลโพลออกมาแล้วว่ามวลชนที่เลือกพรรคก้าวไกล จะออกมาชุมนุมทันทีถ้าไม่เคารพเจตนารมย์ของประชาชนมีอยู่จำนวน 7% ซึ่งจากการคำนวณแล้วเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร 7% ก็อยู่ประมาณ 100,000 กว่าคน แต่ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ตนไม่ใช่ เป็นคนจัดมวลชนแต่เป็นเพียงคนประสานงาน 

“ขอว่าอย่าเรียก ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมขอเรียกว่าเป็นประชาชนที่ตื่นตัวทางการเมืองมาที่ตรงนี้เพื่อมาติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันนี้”  

เมื่อถามว่าเราได้มีการพูดคุยกับกลุ่มมวลชนหรือไม่ ว่าขอบเขตในการแสดงออกทางการเมืองจะอยู่ตรงไหน น.ส.อมรัตน์ กล่าวว่า ตนไม่รู้จักทุกกลุ่มมาจากหลายกลุ่มด้วยกันแต่คนไหนกลุ่มไหนที่ตนพอจะรู้จักก็จะบอกว่าการชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยถ้าหากเกิดอะไรที่ไม่เรียบร้อยขึ้นจะไม่เป็นผลดีกับนายพิธาและกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี


เพราะฉะนั้นทุกคนก็อยากให้การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและอยากได้นายพิธา เป็นนายกฯ จากการโหวตรอบแรก ซึ่งขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ด้วย ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความละมุนละม่อมในการพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาติดตามสถานการณ์การประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้ก็หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นปกติ การชุมนุมที่ผ่านมาความไม่สงบความวุ่นวายไม่ได้เกิดมาจากทางกลุ่มผู้ชุมนุมอาจจะมีบางคนบางพวกบางกลุ่ม เจ้าหน้าที่ต้องแยกปลาออกจากน้ำ หมายความว่าใครที่กอความไม่สงบก่อความวุ่นวาย ซึ่งมีไม่กี่คนก็อย่ามาเหมารวมว่าเป็นผู้ชุมนุมทั้งหมดเพราะว่า 90 กว่าเปอร์เซนต์คือผู้ที่มาโดยสงบสันติปราศจากอาวุธ อยากจะให้เจ้าหน้าที่แยกแยะด้วยใครก่อความวุ่นวายก็จับคนนั้นไป

เมื่อถามว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมรถควบคุมฝูงชนไม่ว่าจะเป็นรถแก๊สน้ำตาหรือกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ในพื้นที่รัฐสภามองอย่างไร น.ส.อมรัตน์ กล่าวว่า อันนี้เข้าใจได้เพราะในพื้นที่รัฐสภาเป็นพื้นที่ที่จะต้องรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุดเพื่อเป็นการป้องปรามและป้องกันก็ดีอยู่แล้ว แต่ท่าทีก็ควรจะเป็นมิตรเป็นมิตรกลุ่มที่มาชุมนุมในวันนี้เป็นกลุ่มที่มาปกป้องผลการเลือกตั้งที่เขาได้ไปเลือกมาแล้วเพื่อให้เป็นไปตามผลการเลือกตั้งเท่านั้น มิเช่นนั้นจะมีการเลือกตั้งไปทำไม เราก็เข้าใจในอารมณ์ของพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าภายในที่ประชุมรัฐสภาจะมีการวอล์คเอาท์เพื่อให้การโหวตไม่สำเร็จ น.ส.อมรัตน์ กล่าวว่า ตนก็ได้ยินข่าวมาเช่นนั้นเหมือนกันว่ามีความพยายามที่จะให้การโหวตในวันนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นอันนั้นเป็นเรื่องของในรัฐสภาตนก็ไม่ได้เกี่ยวแล้วไม่ได้เป็นส.ส.แล้ว แต่ก็เสียใจถ้าเป็นแบบนั้นเพราะประชาชนก็รอคอยพบการเลือกตั้งผ่านมาสองเดือนแล้วควรที่จะมีนายกได้แล้วควรที่จะมีครม. ใหม่

“คุณประยุทธ์ ก็พร้อมที่จะกลับบ้านแล้ว จะไปสร้างเงื่อนไขแบบนั้นขึ้นมาทำไมก็ไม่อยากให้ทำแบบนั้น” น.ส.อมรัตน์ กล่าวว่า

เมื่อถามว่า หากมีการเลื่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรีทางกลุ่มผู้ชุมนุม จะมีการเคลื่อนมวลชนไปในส่วนพื้นที่ต่างๆหรือไม่น.ส.อมรัตน์ กล่าวว่า อันนี้ตนเองก็ไม่ทราบเพราะว่าไม่ได้เป็นคนอาจจัดตั้งมวลชน ต้องอยู่ที่อารมณ์ของมวลชนที่ทำได้ก็คือเข้าไปพูดคุยให้อารมณ์เย็นลงสมมติในวันนี้โปรดแล้วไม่โอเคหรือไม่ได้โหวตก็จะต้องมีการโหวตครั้งต่อไปก็ไม่ใช่การต่อสู้ให้แตกหักอะไรกันในวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการให้สัมภาษณ์ทาง “แพรรี่”  นายไพรวัลย์ วรรณบุตร ได้เดินทางมาพบน.ส.อมรัตน์ เพื่อมอบกระเช้าดอกไม้ ที่ศูนย์สร้่งสุขทุกวัย ภายใน ศูนย์ราชการ กรุงเทพมหานคร(เกียกกาย) โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า วันนี้ได้มาให้กำลังใจมวลชนหรือไม่ นายไพรวัลย์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาอัดรายการเท่านั้น ก่อนที่จะขอตัวกลับขึ้นรถไป