"อานนท์" เคลื่อนม็อบกดดันส.ว. ย้ำ "พิธา" ชอบธรรมสูงเสนอโหวตนายกฯ อีกรอบ
คาร์ม็อบ "อานนท์" เริ่มแล้ว จัดกิจกรรมกดดันส.ว. ให้ลาออก หวังลดแต้มโหวตนายกฯ ย้ำ "พิธา" มีความชอบธรรมสูงเสนอชื่อโหวตนายกฯ ไดอีกรอบ
นายอานนท์ นำภา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้สัมภาษณ์ก่อนการนำ คาร์ม็อบ เคลื่อนไหวจากถนนราชดำเนิน ถึงหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อทำกิจกรรมยื่นใบลาออกให้ ส.ว. หลังจากที่พบว่า เมื่อ 13 กรกฏาคม พบส.ว.จำนวนมากไม่ใช่สิทธิโหวตเห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ห้วหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ว่า เป็นการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบเพื่อนำหนังสือลาออกไปมอบให้กับ ผู้บัญชาการเหล่าทัพที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ส.ว. แต่ด้วยข้อจำกัดจะจัดกิจกรรมโดยเคลื่อนไปที่ กองทัพบก, กองทัพเรือและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ดีกิจกรรมดังกล่าวต้องการเรียกร้องให้ส.ว.ที่ไม่ร่วมประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯ เมื่อ 13 กรกฏาคม นั้นลาออก เพื่อให้คะแนนโหวตนายกฯ ไม่ต้องใช้เสียงถึง 375 เสียง ขณะเดียวกันเป็นกิจกรรมเพื่อต้องการบอกให้สมาชิกรัฐสภาเคารพเสียงมติของมหาชนเมื่อการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม
“ยอมรับว่ากิจกรรมนี้คือการกดดันกลายๆ ทั้งนี้เราต้องการกระตุ้นจิตสำนึก ส.ว. และส.ส. และเริ่มให้คนทั้งประเทศให้ความสำคัญในการแสดงพลัง ยืนยันเสียงของตนเอง เพราะเหมือนกับว่าถูกปล้นคะแนน หลังสมาชิกรัฐสภาไม่เห็นด้วยกับแคนดิเดตนายกฯที่เป็นผู้ที่ 8 พรรคเสนอต่อรัฐบาล ทั้งนี้ ผลโหวตนายกฯ เมื่อ 13 กรกฏาคม เหมือนว่าประชาชนถูกปล้นคะแนน ดังนั้นประชาชนต้องร่วมต่อสู้อีกครั้งเพื่อให้รรัฐบาลมาบริหารราชการแผ่นดิน” นายอานนท์ กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสของการการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ อื่นแทนพรรคก้าวไกล นายอานนท์ กล่าวว่า ตนมองว่าคนที่มีความชอบธรรมสูงสุดในทางการเมมือง คือ นายพิธา ขณะที่พรรคเพื่อไทยยังสนับสนุน ดังนั้นหากการ โหวตนายกฯรอบ2 วันที่ 19 กรกฏาคม หากผลโหวตไม่ผ่านอีกต้องดูว่า8พรรคมีมติอย่างไร และมติของ 8 พรรคนั้นควรฟังประชาชนเพื่อเป็นการหาทางออกร่วมกัน
“ขอให้8 พรรค เกาะให้แน่น ยึดสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชาชน เราต้องไม่ยึดติดบุคคล ต้องยึดอุดมการณ์และข้อเรียกร้อง แต่ขณะนี้นายพิธายังมีความชอบธรรมสูงสสุด แต่หากไม่ผ่านต้องคุยเพื่อไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยไม่แตกแถว” นายอานนท์ กล่าว
เมื่อถามถึง การพลิกขั้วรัฐบาล นายอานนท์ กล่าวว่า เป็นไปได้ยากเพราะแต่ละพรรคนั้นแบกความฝันของคนจำนวนหนึ่งไว้ โดยตนเชื่อว่าแฟนคลับของก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ยอมแน่นอน ส่วนการเสนอแคนดิเดตนายกฯ จากเสียงข้างน้อย เป็นความชอบธรรมที่เสนอได้ แต่ในทางการเมืองเชื่อว่า 70% ของประชาชนไม่น่าจะยอม