'ปิยบุตร' ลั่น 'ก้าวไกล' บางเรื่องถอยไม่ได้ ถ้าสู้สุดทางแล้วต้องยอมรับ
'ปิยบุตร' เผยบทสรุป 'ก้าวไกล' หลังเลือกตั้ง 66 ยอมถอยหลายเรื่องใน MOU 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ตั้งแต่แก้ ม.112 ถึงเก้าอี้ประธานสภาฯ แต่มีบางเรื่องถอยไม่ได้ เหตุเป็นนโยบายหาเสียง ขออย่าปะปนกับตอนโหวตนายกฯ ถ้าสู้จนถึงที่สุด อย่าร้องไห้ ไปไม่ได้ก็คือไปไม่ได้
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2566 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับ 'เนชั่นทีวี' ถึงมุมมองบทสรุปของพรรคก้าวไกลต่อจากนี้จะไปทางไหนอย่างไรว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ก้าวไกลได้มาถึง 151 ที่นั่ง ดังนั้นจึงมีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี ตามระบบปกติที่ออกแบบกันมา โดยเมื่อรวมเสียงได้ 8 พรรคแล้ว ก้าวไกลก็จะต้องเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาล แต่พอเป็นอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากกลไกที่มี ส.ว.250 คน ก็นับเป็นเรื่องยากมากยิ่งขึ้น
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า โดยมุมมองของตนที่มองจากข้างนอก ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลได้พยายามถอยหลายเรื่อง เช่น MOU 8 พรรคร่วม ก้าวไกลก็ยอมถอยหลาย โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นประเด็นอ่อนไหว ที่พรรคร่วมอื่น ๆ ไม่เอาด้วย อย่างเช่น การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมถึงเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ถอยให้ และพอถึงเวลาเวลาแบ่งกระทรวง เชื่อว่าก้าวไกลก็จะยอมถอยให้อีกเช่นกัน ดังนั้นจะมาบอกว่า ก้าวไกลไม่ถอยเลยก็ไม่ใช่ แต่การถอยมีบางเรื่องที่ถอยไม่ได้ เพราะได้ไปรณรงค์หาเสียงไว้แล้ว
“ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยจะเอาประเด็นเหล่านี้ไปปะปนกับการเลือกนายกฯทำไม เพราะเดี๋ยว ส.ส. 349 คนที่เหลือก็ไปโหวตคว่ำในขั้นตอนที่ก้าวไกลเสนอในสภาฯ” นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ส.ส. ก้าวไกล รู้ว่าถ้าเสนอแก้ไข ม.112 ไปในสภาฯก็จะตกตั้งแต่วาระแรก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเอาไปปะปน กับการเลือกนายกฯ อยากให้พูดตรงไปตรงมากเลยดีกว่าว่าจะไม่ให้นายพิธา เป็นนายกฯ และไม่ให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล เพราะเรื่องแก้มาตรา 112 เชื่อว่าจะตกในขั้นตอนของสภาฯแน่นอน แต่จะไม่ให้เขาทำในสิ่งที่หาเสียงไว้คงเป็นไปไม่ได้
ส่วนอนาคตหรือบทสรุปก้าวไกลจะไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า อยู่ที่กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. จะตัดสินใจกันอย่างไร แต่ในมุมตนคือ ถ้าคุณสู้จนถึงที่สุดแล้ว ไปไม่ได้ก็คือไม่ได้ ถือว่าสุดทางแล้วก็ ต้องยอมรับ ไม่ต้องร้องห่มร้องไห้หรือรู้สึกผิด เพราะคุณกำลังทำให้สังคมไทยเห็นว่า มีพล็อตเรื่องเดียวกันคือ เขาจะไม่ให้พิธาเป็นนายกฯ และไม่ให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล