"จุรินทร์" ย้ำไม่หนุนแก้ม.112 โยนวิปสภาถกเคาะชื่อ "พิธา"ชิงนายกฯรอบสอง
"จุรินทร์" ย้ำไม่หนุนแก้ม.112 โยนวิปสภาถกเคาะเสนอชื่อ "พิธา"ชิงนายกฯรอบสอง ปัดตอบท่าทีหากเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล บอกยังไม่เกิดขึ้น
18 กรกฎาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล โทรหานายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอเสียงโหวตทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ว่า ไม่ขอพูดรายละเอียด ไม่ได้มีการเจรจาในการตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล
ส่วนการเจรจาขอเสียงสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ว่ามติพรรคชัดเจนไปแล้วและมีการลงมติไปแล้ว ถ้ามีการโหวตซ้ำอีกจะมีการพิจารณาอีกครั้งในช่วงเช้า 08.30 น. ของวันที่ 19 กรกฎาคม
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นส.ส.มานาน มองการเสนอชื่อนายพิธาเป็นญัตติหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอตอบ เพราะว่าขณะนี้มีความเห็นเป็นสองทาง ซึ่งเป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภาที่จะเป็นผู้วินิจฉัยเบื้องต้น และจะมีการคุยกันของวิปฝ่ายต่างๆ อาจจะมีข้อยุติ หากไม่มีอาจจะต้องไปหาข้อยุติในที่ประชุมสภา ซึ่งตนไม่สามารถตอบได้ว่าข้อยุติจะเป็นอย่างไร แต่เท่าที่ทราบว่ามีความเห็นไม่ตรงกันอยู่
ส่วนจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า การโหวตเลือกนายกในส่วนคุณพิธาและการไม่แตะมาตรา 112 เป็นจุดยืนที่ชัดเจนของพรรคมาตั้งแต่ต้นไม่มีอะไรเปลี่ยน ส่วนจุดยืนของพรรคหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้นตนไม่ขอตอบ เพราะมันยังไม่เกิดขึ้น สิ่งนี้ยังไม่เกิดไม่ขอตอบอะไรไปก่อน ถ้าเอาสถานการณ์ปัจจุบันคำตอบประชาธิปัตย์ชัดเจน
เมื่อถามว่า จะเปลี่ยนจาก งดออกเสียง เป็นไม่เห็นด้วยหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอให้รอการประชุมมติพรรคในวันพรุ่งนี้ ไม่มีความลับ ซึ่งหากมีมติอย่างไรก็จะโหวตไปทางเดียวกัน ตนยืนยันไปแล้วรอบนี้ก็เหมือนกันไม่มีอะไรเปลี่ยน
เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ในวันพรุ่งนี้จะกระทบเรื่องความเหมาะสมหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาหรือไม่ และจะมีการวินิจฉัยออกมาอย่างไร เราตอบไปก่อนศาลตัดสินไม่ได้ เดี๋ยวมันจะผิดหรือถูก ไม่ขอให้ความเห็นจนกว่าจะมีการตัดสินออกมา