"ชัยธวัช" งัดรธน. สู้ข้อบังคับข้อ41-หวังเห็นแก้รธน.272ก่อนโหวตนายกฯรอบ3
"ชัยธวัช" ยกมติ8พรรค ระบุ ญัตติโหวตนายกฯตามรธน. ไม่ใช่ญัตติทั่วไป ใช้ข้อบังคับข้อ41 เป็นฐานไม่ได้ หวังเห็นการแก้รธน.272ก่อนโหวตนายกฯรอบ3
นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมวิป3ฝ่าย ซึ่งมีประเด็นการยกข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ41 กรณีห้ามเสนอญัตติที่ถูกตีตกไปแล้วซ้ำอีกในสมัยประชุมเดียวกัน ว่า ในการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล เห็นตรงกันว่าไม่ควรตีความว่าญัตติโหวตนายกฯ คือ ญัตติตามข้อบังคับข้อ41 เพราะการโหวตนายกฯ นั้นมีกระบวนการและหลักการเลือกที่ชัดเจน ซึ่งความเห็นต่างที่เกิดขึ้นในส่วนของส.ว.นั้น ต้องใช้เหตุผลอธิบายอย่างถึงที่สุด
เมื่อถามว่าจะมีประเด็นหารือถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องเพื่อวินิจฉัยสถานภาพส.ส.ของนายพิธา จะมีภาพที่นายพิธาต้องเดินออกจากห้องด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่น่าจะมี เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระบวนการในการโหวตเลือกนายกฯอยู่แล้ว เช่นกรณีในปี 62 ในกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังเสนอชื่อได้
เมื่อถามต่อว่า หากที่ประชุมรัฐสภามีความเห็นไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา เป็นครั้งที่ 2 จะให้สิทธิพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อเลยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า "8 พรรคร่วมยังไม่ได้คุยกัน ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลมีความมุ่งมั่น ที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จให้ได้ หากมีการโหวตไปแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ และหากวาระเพิ่มเติมที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ไม่สามารถบรรจุได้ทันก่อนเลือกนายกฯครั้งที่ 3 หาก เป็นเช่นนั้นแล้วเราก็คงต้องเปิดโอกาสให้ประเทศ เดินหน้าต่อไปได้ด้วยการเสนอแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย"
เมื่อถามต่อว่า หากตัวเลขขยับการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่สามจะเสนอชื่อนายพิธาอีกครั้งหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้าไม่มีโอกาสเป็นไปได้จริงๆ ก็คงต้องเปิดโอกาสให้กับประเทศ อย่าให้การเมืองเดินถึงทางตัน แม้ว่าเรามีสิทธิโดยชอบธรรม ในระบบรัฐสภาปกติ แต่เข้าใจดีว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติเท่าไหร่ คงพยายามอย่างเต็มที่ ตนคิดว่าเป้าหมายสุดท้ายที่ต้องจับไว้ให้มั่นคือการจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคให้ได้ นั่นคือสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ได้บอกหรือไม่ว่าตัวเลขที่เหมาะสมคือเท่าไหร่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันขนาดนั้น ยกตัวอย่างตัวเลขบ้าง โดยสรุปคือมีนัยยะสำคัญมองเห็นความเป็นไปได้ ทั้งนี้ ตัวเลข 344 ที่นายพิธาได้ระบุในการแถลงเมื่อวานนี้(17 กรกฏาคม) อาจจะเป็นเพราะนายพิธายกตัวเอง แต่ไม่ได้มีสูตรตายตัวอย่างนั้น ตนคิดว่า ตัวเลขที่ออกมาก็คงจะเห็น และหากวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เข้าก่อน การโหวตนายกฯ ครั้งที่ 3 เราก็อาจจะดูตรงนั้นอีกสักเล็กน้อย
เมื่อถามถึง กรณีที่อาจมีการเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชิงนายกฯ พรรคก้าวไกลมีการวางแผนไว้อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้กังวลอะไร เราพยายามเช็คสถานการณ์ และคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีการเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร เสนอก็ได้แต่ไม่เชื่อว่าจะผ่าน จากการประเมินอย่างรอบด้าน ส.ว.เองก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ ทั้ง 10 พรรค 188 เสียง ก็ไม่น่าจะเป็นเอกภาพในเรื่องนี้ ประเด็นดังกล่าวจึงไม่น่าจะมีความกังวลเท่าไหร่
เมื่อถามถึงกระแสข่าวระบุว่าได้มีการติดต่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้มีการติดต่อกลับมาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า วันก่อนตนได้โทรหานายเฉลิมชัยจริง แต่นายเฉลิมชัยยังไม่ได้รับสาย และอีกเบอร์หนึ่งปิดเครื่อง ตนจึงไม่ได้ติดต่อไปอีก เจตนาคืออยากจะเช็คท่าทีของพรรคปชป. ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร หากมีการเสนอแคนดิเดตนายกฯจากเสียงข้างน้อย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการรวมเสียงโหวต เพราะถ้ามีเรื่องนี้คงต้องเอาเข้าที่ประชุมพรรค รวมถึงเอาไปหารือในที่ประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลด้วย.