"ชาดา" รอฟังมติพรรค ปัดตอบล่วงหน้ามติจะโหวตให้ "พิธา" หรือไม่

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมวิป3ฝ่ายเพื่อหารือถึงการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 รอบที่สอง วันที่ 19 กรกฏาคมโดยยืนยัน ว่า พรรคภูมิใจไทยจะไม่เสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคแข่งขัน เพราะพรรคภูมิใจไทยยังยึดให้พรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งก่อน ส่วนกระแสข่าวการพลิกขั้วนั้นและพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสเป็นรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น ตนตอบไม่ได้ ขอให้เป็นมติพรรค

 

 

เมื่อถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้วมีพรรคก้าวไกลอยู่ด้วยจะโหวตให้หรือไม่ นายชาดากล่าวว่า ต้องประชุมพรรคก่อน ซึ่งจะมีการประชุม ช่วงบ่ายวันนี้(18 กรกฏาคม)แต่ถ้ายังมีการแก้ไขมาตรา 112 อยู่ ตนไม่ยุ่งด้วย แม้ว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายแก้มาตรา 112 แต่มีพรรคก้าวไกลอยู่ นั่นก็หมายถึงยังมีมาตรา 112 อยู่ 

เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ยืนยันไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยใช่หรือไม่ นายชาดา กล่าวยืนยันว่า ไม่เเห็นด้วยกับเสียงข้างน้อย และให้เกียรติพรรคที่ได้คะแนนเสียงมาจากประชาชน

 

"ผมอยากบอกว่า คะแนนที่พรรคอันดับหนึ่งได้ไม่ใช่เป็นการชนะขาด และผูกขาดความเป็นนายกฯอยู่พรรคเดียว เมื่อได้อันดับหนึ่งก็เป็นมารยาททางการเมืองที่เขาให้พรรคอันดับหนึ่งก่อน  ไม่ใช่ว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องเป็น พรรคอื่นเป็นไม่ได้ และกฎหมายไม่ได้ ระบุว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องเป็น การที่ด้อมส้มออกมาถือเป็นความพยายามเบี่ยงเบนซึ่งไม่ใช่" นายชาดา กล่าว

 

เมื่อถามว่าหากเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล รอบสองพรรคภูมิใจไทยจะโหวตอย่างไร นายชาดากล่าวว่า ต้องรอมติพรรค อย่าให้ตนพูดดีกว่าเพราะไม่ใช่นักกฏหมาย ไปแสดงความเห็นไม่ตรงกับเขาเดี๋ยวจะไม่ดี ซึ่งทุกคนก็มีจุดยืนในใจอยู่แล้ว

 

เมื่อถามย้ำว่า จะโหวตสวนหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า ถ้าเป็นนายพิธาก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พยายามติดต่อพรรคการเมืองอื่นร่วมรัฐบาล  นายชาดากล่าวว่า “ เรายื่นโอกาสให้แล้วเมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม แต่เขาไม่รับก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร  โดยยื่นมือให้พรรคก้าวไกล วันนั้นเราบอกจุดยืนของพรรคฯว่าถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยุ่งกับมาตรา 112 ภูมิใจไทยจะลงคะแนนให้แล้วไม่ร่วมรัฐบาล  แต่เขาไม่รับ เราให้ทางออกเขา และทางออกให้กับประเทศ แต่เขาก็ย้อนมาอีกว่า พูดแล้วทำ ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร และผมเห็นว่าโอกาสคงไม่มีมาบ่อย”  

 

เมื่อถามถึงผลกระทบจากการอภิปรายเมื่อวันที่ 13 กรกฏาคม ที่ผ่านมาทำให้โดนทัวร์ลง นายชาดากล่าวว่า ที่บ้านตนไม่มี และตนไม่สนใจ  อย่างไรก็ดีตนไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ เนื่องจากป่าเถื่อน ที่ด่า ส.ว. ด่าคนที่ไม่เห็นด้วย ขู่จะเอาแก๊สไประเบิด พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่กลุ่มการเมืองแต่เป็นกลุ่มอันธพาล ซึ่งไม่ถูกต้องและไม่สมควรที่จะเอามาใช้ในยุคปัจจุบัน

 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีคนขุดคุยเรื่องหุ้นสื่อของนายชาดา จะเหมือนกับของนายพิธาหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า คนละประเทศและคนละเรื่องกันเลยไม่ใช่เรื่องในประเทศไทย ของตนอยู่ที่สหรัฐฯ อย่าเอามาผูกกัน