ทางวิบากนายกฯ ‘เศรษฐา’ เสี่ยงสะดุด เกมฉีก ‘เอ็มโอยู’
สปอตไลท์การเมืองสาดจับไปที่ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย หลังชื่อ พิธา ถูกตีตกในที่ประชุมรัฐสภา ไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อซ้ำ
เสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน ไม่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค. 2566 และรายงานข่าวบางกระแสไปไกลถึงขั้นจะมีการดึงบางพรรคการเมืองในขั้ว 188 มาร่วมเสริมขั้ว 8 พรรค
ก่อนหน้าที่จะเข้าสู่ถนนการเมือง เศรษฐา เป็นนักธุรกิจหัวใจประชาธิปไตย มีจุดยืนการเมืองชัดเจน ไม่เอาอำนาจนอกระบบ และเคยได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และปัญหาความเหลื่อมล้ำ ได้ถูกใจคนรุ่นใหม่ ผู้รักประชาธิปไตย
มีรายงานข่าวจากพรรคก้าวไกลว่า ได้มีการพูดคุยกันนอกรอบในหมู่แกนนำพรรค ที่มี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าร่วมด้วย
เมื่อศึกษาข้อกฎหมายแล้ว แกนนำก้าวไกลยืนยันว่า สถานะของ พิธา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ยังครบถ้วน สามารถเสนอชื่อโหวตนายกฯได้อีก
ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกล เตรียมจะยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความข้อบังคับที่ 41 ของประชุมร่วมรัฐสภา ว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 หรือไม่
ประเด็นการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอความชัดเจนในการตีความข้อบังคับที่ 41 ทีมเจรจาของพรรคก้าวไกล จะได้ไปพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยด้วย
ดังนั้น การจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่เข้ามา คงจะเร็วเกินไป เนื่องจากข้อบังคับการประชุมข้อ 41 วรรคท้าย ระบุว่า ประธานรัฐสภา อาจพิจารณาต่อได้ หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป
สมมติว่า ดึงพรรคขนาด 1 เสียงเข้ามาร่วมเป็นพรรคที่ 9 ก็จะเสนอชื่อพิธา ให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตได้ ด้วยเหตุนี้ ก้าวไกลจึงมั่นใจว่า พิธายังไม่ถูกฝังด้วยอำนาจพิเศษที่เกมสภา เอาเสียงข้างมากมาทำลายหลักการประชาธิปไตย
ลึกๆ แกนนำก้าวไกลก็รู้ว่า ทักษิณ ชินวัตร อยากให้ก้าวไกลประกาศถอนตัว และยกเลิกเอ็มโอยู 8 พรรค เพื่อเปิดทางให้มีการสลับขั้ว ฉะนั้น ก้าวไกลจึงขอกอดเพื่อไทยไว้ ไม่ยอมแยกทางง่ายๆ
ประเด็นข้าวต้มมัดหรือคลุมถุงชน 8 พรรคแยกจากกันไม่ได้ สร้างความอิหลักอิเหลื่อให้แกนนำพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก
ชั่วโมงนี้ เศรษฐา ทวีสิน มีความพร้อมจะเป็นนายกฯ และไม่ได้มีเงื่อนไขในการจะดึงพรรคขั้ว 188 เข้ามาร่วมรัฐบาล
แหล่งข่าวในเพื่อไทยเปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวเศรษฐาต่อรองไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์และพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ไม่เป็นความจริง
สิ่งที่เศรษฐา ทวีสิน และแกนนำเพื่อไทย ก็ประเมินสถานการณ์ในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ได้คือ ถ้าเสนอชื่อเศรษฐา และยังมีพรรคก้าวไกล ร่วมอยู่ในรัฐบาลด้วย ก็คงไม่ผ่านด่าน ส.ว.
เศรษฐา จึงให้สัมภาษณ์ทำนองว่า เรื่องการแก้ไข ม.112 ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่จะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว. รวมถึงพรรคการเมืองอื่น คณิตศาสตร์ค่อนข้างพื้นฐานมากๆ นับดูก็รู้ว่าเรื่องอะไรเป็นอะไร
อย่างไรก็ตาม เศรษฐายอมรับว่า ตนพูดแทนพรรคก้าวไกลไม่ได้ แต่พรรคเพื่อไทยคงต้องพูดคุยกัน ถ้าเราจะเป็นแกนนำเรื่องนี้ ต้องยุติเรื่องนี้ให้ได้
อ่านเกมเจรจาต่อรองระหว่างเพื่อไทย กับก้าวไกลในช่วงนี้ ก็คงจะเป็นข้อเสนอให้ก้าวไกลลดเพดานเรื่อง ม.112 ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่พรรคสีส้มจะตอบรับอย่างใดอย่างหนึ่ง
เรื่องจึงวนมาที่เกมยื้อ ระหว่างเพื่อไทย-ก้าวไกล เพราะต่างฝ่ายต่างก็อยากเป็นพระเอก ไม่ใช่ผู้ร้ายในเกมฉีกเอ็มโอยู 8 พรรค ที่กำลังหาทางออกที่เสียหายให้น้อยที่สุด
แต่สำหรับแคนดิเดตนายกฯ เศรษฐา ระหว่างเส้นทางที่ยังไปไม่ถึง ก็ยังอาจต้องเผชิญเกมนอกสภาฯ ที่อดีตนักการเมือง จอมแฉ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ส่งสัญญาณถี่ยิบว่า มีข้อมูลจะสกัดว่าที่นายกฯ คนถัดไป