ฤดู ‘ชุมนุม’ มาถึงแล้ว โจทย์ใหญ่ ‘แดง’ ไม่เอา ‘ส้ม’
ปฏิกิริยาจากนอกสภาที่เห็นชัดที่สุดคือ ฤดูการชุมนุมครั้งใหม่ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และ “จำนวน” ของผู้ชุมนุมในเย็นวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.นี้ จะให้คำตอบว่า ม็อบยกใหม่จะไปต่อได้หรือไม่
พ่ายเกมสภา แต่ชนะใจมหาชนทั้งประเทศ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถูกด่านอนุรักษนิยมขึงขวาง จนหมดโอกาสเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล
19 ก.ค.2566 ฉากการเมืองโหด ผ่านไปแล้ว พรรคก้าวไกลตกเป็นฝ่ายรับ เมื่อพิธาเจอดาบแรก ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องคดี พิธา ถือหุ้นไอทีวี และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
ดาบสอง ที่ประชุมรัฐสภา ส.ว.ส่วนใหญ่ และ ส.ส.พรรคขั้ว 188 โหวตตีตกชื่อ พิธา ไม่อาจเสนอชื่อซ้ำเป็นนายกฯ ได้อีก
ปฏิกิริยาจากนอกสภาที่เห็นชัดที่สุดคือ ฤดูการชุมนุมครั้งใหม่ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ตกเย็นวันเดียวกัน แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดกิจกรรมฌาปนกิจ ส.ว.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน
“ยกที่ 1 ได้เริ่มขึ้นแล้วมาร่วมไว้อาลัยให้การเมืองไทยไปด้วยกัน และเตรียมพร้อมเข้าสู่ยกที่ 2 เร็วๆ นี้” แกนนำผู้ชุมนุม ได้แจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊กของแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ หลังยุติกิจกรรมดังกล่าว
ถัดมา สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้โพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนประชาชนออกมาชุมนุม “หากเธอได้ยินเสียงกลองกระหน่ำมันคือเสียงเท้า(ผ้าใบ)ของมวลชน #พร้อม พบกัน อาทิตย์ 23 ก.ค. แยกอโศก 5 โมงเย็น”
บก.ลายจุด อาสานำพามวลชนต่อสู้กับ ส.ว. และอำนาจพิเศษ ผู้เป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตย
ย้อนไปดูการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตัวละครที่คอยกำกับเวทีวันนั้นคือ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมกับเครือข่าย Respect My Vote
อ่านเกมชั้นเดียวเชิงเดียวก็เข้าใจได้ว่า กลุ่มดังกล่าวนี้ เป็นเยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ที่พร้อมจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และต้องการให้ก้าวไกลกับเพื่อไทย จับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในฝัน
วันก่อน อานนท์ นำภา ได้แสดงความเห็นต่อพรรคเพื่อไทยอย่างตรงไปตรงมาว่า ฝ่ายประชาชนต้องล็อกคอนักการเมืองไว้ให้ได้ ให้ได้เป็นรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ตัดทางสืบทอดอำนาจ และฟอกขาวให้เผด็จการ
หากมีพรรคใดแตกแถวไปจับมือกับขั้ว 188 ประชาชนไม่ยอมแน่ นี่เป็นคำเตือนจากทนายอานนท์
ขณะที่ กองเชียร์เพื่อไทย หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่ได้คิดแบบ อานนท์ นำภา พวกเขาต้องการให้เพื่อไทย จับมือกับพรรคใดก็ได้ เพื่อให้มีรัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน
อย่างเช่น ถือแถน ประสพโชค ที่เป็นนักคิดคนเสื้อแดง ได้แสดงความเห็นว่า “ถ้าเพื่อไทยเดินตามก้าวไกล มัดเป็นข้าวต้มไปเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน เลือกตั้งครั้งหน้าก็เห็นอนาคตได้เลยว่า เพื่อไทยจะต้องแพ้เลือกตั้ง”
ดังนั้น ถือแถน และคนเสื้อแดงอีกหลายกลุ่มเห็นว่า “ทางรอดของเพื่อไทยคือ ต้องเป็นรัฐบาลแล้วมา
สร้างผลงาน ทำนโยบายทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้น”
นั่นหมายความว่า คนเสื้อแดงพร้อมที่จะให้เพื่อไทย แยกทางกับก้าวไกล แถมเชื่อว่าเพื่อไทยจะรักษาเสียงสนับสนุนไว้ได้ แม้จะถูกทำให้ภาพพจน์เป็นผู้ร้ายก็ตาม
จะว่าไปแล้ว ม็อบขับไล่ ส.ว.ในวันนี้ ก็คือแนวร่วมของพรรคก้าวไกล และดูจะเป็นเนื้อเดียวกันเสียด้วยซ้ำไป
ส่องลึกเข้าไปในเวทีแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และเครือข่าย Respect My Vote ก็จะมีตัวละครลับอยู่ 2 คนคือ บอย-ธัชพงศ์ แกดำ กลุ่ม Support Thailand และ ปอ-กรกช แสงเย็นพันธ์ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย
บอยและปอ เข้าร่วมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) เคลื่อนไหวต่อต้าน คสช. ตั้งแต่ปี 2558 รุ่นเดียวกับ รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และชลธิชา แจ้งเร็ว ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล
ปี 2560 ปอ-กรกช แสงเย็นพันธ์ และลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว ได้เข้าทำงานในกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย และมีบทบาทเป็นพี่เลี้ยงพวกนักกิจกรรมรุ่นน้องอย่างรุ้ง ปนัสยา และเพนกวิน
ปี 2563 มีแฟลชม็อบทั่วประเทศ หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) ที่ก่อตั้งโดย รังสิมันต์ โรม ได้ทำตัวเป็นพี่เลี้ยงขบวนการเยาวชนปลดแอกอย่างเป็นทางการ และเป็นเวทีแรกที่อานนท์ นำภา พูดเรื่องการปฏิรูปสถาบันเบื้องสูง
แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ในยุคนี้มีแกนนำคือ จิ๊บ-กัลยกร สุนทรพฤกษ์ ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มนักเรียนเลว และร่วมทำกิจกรรมต้านเผด็จการ คู่กับตี้-วรรณวลี ธรรมสัตยา
ก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 กลุ่มทะลุแก๊ส ทะลุฟ้า ทะลุวัง โมกหลวงริมน้ำ 24 มิถุนาประชาธิปไตย เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) และนักเรียนเลว ได้จัดกิจกรรม Respect My Vote โหวตเพื่อการเปลี่ยนแปลง
ว่ากันตามตรง กลุ่มองค์กรเหล่านี้คือแขนขาของพรรคก้าวไกล ดังนั้น ในฤดูการชุมนุมใหญ่กลับมาอีกครั้ง จึงมีการชูคำขวัญขับไล่ ส.ว. พ่วงกดดันเพื่อไทยไม่ให้ทิ้งก้าวไกล
ด้วยเหตุนี้ ลูกชาวนา หรือ Thai Ariyaskun นักทฤษฎีฝ่ายคนเสื้อแดง จึงประเมินการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมสีส้มว่า “ยุทธศาสตร์การใช้ม็อบของพรรคส้มถือว่า แป้ก โดยสมบูรณ์นะครับ คนออกมาร่วมน้อยมาก น้อยกว่าปี 2563…”
ลูกชาวนา ยังชี้ให้เห็นว่า “ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่เขาลงคะแนนให้แล้ว เขาเบื่อที่จะออกมาต่อสู้บนถนน”
การประเมินม็อบในสายตาคนเสื้อแดง อาจถูกแย้งมาจากฝั่งคนเสื้อส้ม เพราะเชื่อว่า เงื่อนไขการลุกขึ้นสู้ของมวลชนสุกงอมแล้ว
ดังนั้น สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้โพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนประชาชนออกมาชุมนุม ในวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.2566 ที่แยกอโศก
บก.ลายจุดมั่นใจว่า จะมีประชาชนนับหมื่นคนมาร่วมกิจกรรม เพื่อกดดันให้ ส.ว.ยุติการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยทันที
ดังนั้น “จำนวน”ของผู้ชุมนุมในเย็นวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.นี้ จะให้คำตอบว่า ม็อบยกใหม่จะไปต่อได้หรือไม่