ผบ.ตร. สั่งจับตา แกนนำม็อบ ทำผิดเงื่อนไขศาล พร้อมดูแลโหวตนายกฯ 27 ก.ค.
ผบ.ตร. ยืนยัน พร้อมดูแลผู้ชุมนุมเห็นต่าง เตรียมกำลังรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร วันโหวตนายกฯ 27 กรกฎาคมนี้ พร้อมจับตาผู้ต้องหาคดีชุมนุมการเมืองทำผิดเงื่อนไขศาล
วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจากการชุมนุม ม็อบ ของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง หลังการโหวตนายกฯ รอบที่ 2 ไม่ผ่าน ว่า ตนสั่งการให้แต่ละหน่วย จัดทำแผนรองรับดูแลความสงบเรียบร้อยในแต่ละพื้นที่ โดยจะดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติการชุมนุมฯ เป็นหลัก
ทุกคนมีสิทธิ์ที่ชุมนุม แสดงความเห็นภายใต้กรอบของกฎหมาย แต่ต้องมีการแจ้งล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมกำลังเข้าไปดูแลความปลอดภัย ความเรียบร้อยด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้ชุมนุม ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีอยู่
สำหรับวันที่ 27 กรกฎาคม ที่จะมีการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา เจ้าหน้าที่จะใช้แผนการปฏิบัติเดิม โดยจะต้องประเมินสถานการณ์ และการข่าวแบบวันต่อวันเพื่อปรับใช้ในวันจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแทรกแซงสถานการณ์ ยืนยันเจ้าหน้าที่จะปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและเป็นไปอย่างประนีประนอม ส่วนต่างจังหวัดที่มีการนัดชุมนุม ก็ได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
สำหรับช่วงเช้าวันนี้ มีประชาชนนำถุงปลาร้าขว้างปาเข้าใส่ ที่ทำการ กกต.นั้น ก็จะนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาปรับใช้ในการดูแลความปลอดภัยสถานที่ต่างๆ ที่มีความสุ่มเสี่ยง ส่วนผู้ที่ก่อเหตุนั้น ก็จะต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
ขณะที่เรื่องการรักษาความปลอดภัย กกต. สมาชิกวุฒิสภา และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น จะให้ตำรวจในพื้นที่ดูแลหากมีการร้องขอ ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้มีการร้องขอเข้ามาบ้างแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็จะรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ที่ร้องขอเข้ามาทั้งสองฝ่าย ส่วนกรณีที่พบการโพสต์ข้อความคุกคามข่มขู่บุคคลต่างๆ ในโซเชียลมีเดียนั้น จะให้ตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์รับผิดชอบดำเนินการต่อไป ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินคดี หากเป็นกรณีความผิดต่อส่วนตัวและมีการมาแจ้งความตำรวจก็จะดำเนินการตรวจสอบให้
ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวภายใต้เงื่อนไขของศาลนั้น พนักงานสอบสวนก็จะคอยตรวจสอบ หากพบการกระทำที่เข้าข่ายผิดเงื่อนไข จะเสนอศาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป