รักษาสัจจะ! 'พิธา' ลั่นใครจะปล่อยมือก็ช่าง แค่ ปชช.จับมือไว้ก็พอ
'พิธา' ร่วมงานระดมทุน 'สุราก้าวหน้า' ลั่นใครจะปล่อยมือจากเราก็ช่าง แค่จับมือกันไว้ให้มั่นก็พอ ลั่นมั่นใจได้กลับเข้าสภาฯ-ทำเนียบ แต่ขึ้นอยู่กับว่า 'เขา' จะเห็นหัว ปชช.หรือไม่ เหน็บมีใครเห็นตนในช่อง itv บ้าง ชี้บ้านเมืองมีวิถี เอาหลักการเป็นที่ตั้ง รักษาสัจจะกับ ปชช.
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2566 ที่ดิ โอโซน อ.เมือง จ.ระยอง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาร่วมกิจกรรมเสวนาและระดมทุนสุราก้าวหน้า โดยคณะทำงานพรรคก้าวไกลจังหวัดระยอง โดยเดิมทีกิจกรรมดังกล่าว ผู้จัดงานตั้งใจให้เป็นงานระดมทุนชิมสุราในบรรยากาศสบาย ๆ แต่ด้วยจำนวนประชาชนที่มารอพบนายพิธานั้นมากจนเต็มพื้นที่จัดงาน ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเวทีปราศรัยไปโดยปริยาย
ในช่วงหนึ่ง พินายพิธา กล่าวว่า มีความดีใจอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนและส่งเสริมสุราก้าวหน้า ทำให้สุราชุมชนเป็นกระแสเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพิ่มเติมโอกาสให้กับเกษตรกรในการเปลี่ยนโภคภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งสำหรับชาวระยองเอง ในฐานะที่เป็นเมืองแห่งผลไม้ระดับต้นๆ ของประเทศ ปลูกทั้งสับปะรด มังคุด และมะม่วง เพียงสามอย่างนี้ก็นับรวมกันเป็นหลายแสนตันต่อปีแล้ว ย่อมจะได้รับประโยชน์ด้วย
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า ว่า นี่คือหนึ่งในนโยบายจำนวนมากที่เราได้ให้สัญญากับประชาชน และนโยบายหลายอย่างจะถูกสานต่ออย่างแน่นอน แม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาลภายใต้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อพิธาแล้ว เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ตนต้องขอให้ประชาชนทุกคนอย่าเพิ่งหมดหวัง ตนและพรรคก้าวไกลขอเอาบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง แม้พิธาจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่เป็นไร พรรคก้าวไกลจะได้เป็นหรือไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือการรักษาสัจจะที่หาเสียงไว้กับประชาชนและยุติการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิมให้ได้ เพราะฉะนั้น วันที่ 27 ก.ค. นี้ ตนขอชวนประชาชนทุกคน ร่วมให้กำลังใจกับพวกเราทั้ง 8 พรรคด้วย
นายพิธา กล่าวอีกว่า แม้ตนจะไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ก็ยังเป็นหัวหน้าพรรคที่ประชาชนให้ความไว้วางใจมากที่สุดอยู่ และแม้จะไม่ได้อยู่ในสภาวันนี้ แต่ตนมั่นใจว่าต้องได้กลับไปแน่นอน ถามว่ามีใครเห็นพิธาเดินออกจากสภาผ่านช่องไอทีวีบ้าง ใครเคยฟังดีเบตพิธาในช่องไอทีวีบ้าง ตอนนี้อยากดูว่าไอทีวีถ่ายทอดสดอยู่ที่ไหนใครบอกได้บ้าง ไม่มีใครเลือกคนคนนี้มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะได้ดูช่องไอทีวี ตนจึงมั่นใจมากทั้งในแง่หลักการและหลักฐาน ว่าจะได้เดินกลับเข้าสภาหรืออาจเป็นทำเนียบรัฐบาล แต่นั่นขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเห็นหัวประชาชนบ้างหรือไม่
นายพิธา กล่าวด้วยว่า มาถึงจุดนี้ตนต้องย้ำอีกครั้งว่าใครจะปล่อยมือจากเราก็ช่าง ขอแต่พวกเราประชาชนจับมือกันไว้ให้มั่นๆ ก็พอจำความรู้สึกและความหวังที่พวกเรามีด้วยกันไว้ ในส่วนของพรรคการเมืองนั้น ใครเขาจะถีบเราลงจากเรือเราจะไม่ลง และเราจะยังขอชวนพวกเขากลับมารักษาสัจจะที่มีกับประชาชน เดินหน้าไปสู่อนาคตของประชาชนร่วมกัน ช่วยกันส่งเสียงว่า 27 ล้านเสียงของประชาชนมีความหมายกว่า 250 เสียงของ ส.ว.
“บ้านเมืองมีวิถีของมันอยู่ ขอให้กลับมายึดเอาวิถีที่มีประชาชนเป็นที่ตั้งร่วมกัน เอาหลักการมาเป็นที่ตั้ง คิดถึงประชาชนที่ไปขอเสียงเขามาให้เยอะๆ รักษาสัจจะกับประชาชน เรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้ ตอนดีเบตตอบคำถามสื่อไว้อย่างไรก็ทำแบบนั้น ถ้าเวียนหัวมากคิดไม่ออก ก็มาฟังเสียงประชาชนที่หาเสียงไว้สิ มันจะไปยากตรงไหน” นายพิธา กล่าว