"กมธ.การเมือง ส.ว." มอง "ก้าวไกล" ยังจับมือตั้งรัฐบาล เสียงส.ว.​ผ่านให้ยาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา  ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธานกมธ. ได้นัดหารือเพื่อประเมินและติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล ที่ล่าสุด พรรคเพื่อไทย ได้สิทธิเป็นผู้นำตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล

ภายหลังการหารือนายออน กาจกระโทก ส.ว. ฐานะกมธ.ให้สัมภาษณ์ ว่าในการประชุมดังกล่าวได้มีผู้ยกตัวอย่างว่าในกรณีที่พรรคก้าวไกล ประกาศก่อนวันที่ 27 กรกฏาคม ซึ่งนัดโหวตนายกฯ รอบ3  ว่าจะชอพักการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112ไว้ก่อน ทิศทางของ ส.ว.จะเห็นอย่างไร ซึ่งในกมธ.ได้แสดงความเห็นและมี กมธ.มองว่า หากคนที่คิดในจิตสำนึก แม้พักไว้ แต่ยังคิดจะทำ ทำให้ตนไม่ไว้ใจ เช่น มีคนที่คิดจะทำร้ายครอบครัว และรับทราบมาก่อน ฝั่งหนึ่งบอกว่าไม่ได้ แต่อีกฝั่งบอกว่าคนที่คิดจะฆ่าพ่อแม่เรา หากให้เขาเข้ามาในครอบครัว หากเขาจะฆ่าค่อยเอาเรื่อง เปรียบเทียบคือ จะรอให้ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่เราก่อนแล้วค่อยดำเนินการใช่หรือไม่

“ดังนั้นผมมองว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลายังมีพรรคก้าวไกล ที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ยากที่จะผ่าน ส่วนที่มีความพยายามจากพรรคเพื่อไทยเพื่อขอเสียงส.ว. ผมมองว่าไม่ควรมาเจรจร ไม่ใช่ว่า ส.ว.หยิ่ง ยะโส แต่ส.ว.ต้องวางตัวเป็นกลาง หากให้ส.ส.มาเจรจา เหมือนกับมาล็อบบี้” นายออน กล่าว

เมื่อถามถึงการประเมินการเดินหน้าเพื่อโหวตนายกฯ ให้ได้จะทำได้หรือต้องเลื่อนไปก่อน นายออน กล่าวว่า ตนอยากให้พรรคเพื่อไทยคุยกันให้ตกผลึกก่อนจะลงมติ ขณะที่การเสนอเลื่อนนั้น ออกมาจากฝั่งส.ว. อย่างไรก็หากพรรคเพื่อไทยคุยแล้วตกผลีกให้ดี และมีเงื่อนไขคือ พรรคก้าวไกลต้องเสียสละให้บ้านเมืองเดินหน้า ตนรับได้

เมื่อถามว่าท่าทีของพรรคก้าวไกลที่ไม่ยอมสละการร่วมจัดตั้งรัฐบาล นายออน กล่าวว่า “ผมคิดว่าบ้านเมืองต้องมีทางออกเสมอ คงไม่มีใครเดินชนตึก เพราะพอไปทางนี้ไม่ได้ ต้องไปอีกช่องหนึ่ง ขณะนี้ต้องให้เครดิตพรรคเพื่อไทยดำเนินกการ ส่วนส.ว. จะดูว่าใครจะเสนอชื่อเป็นนายกฯ  ใครจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล”