‘ชลน่าน’ มอง8พรรคฝ่าทางตัน ‘ลดเงื่อนไข’ ตั้งรัฐบาลไปต่อ
“สมมุติพรรคเพื่อไทยเสนอว่าทุกอย่างมันไปไม่ได้แล้ว พรรคเพื่อไทยขอถอนตัวออกมา ทุกพรรคจะว่าอย่างไร หรือพรรคใดพรรคหนึ่งขอออกมา ทุกพรรคจะว่าอย่างไร ถ้าบอกว่ายอมรับ ก็จะเอาความเห็นพ้องมาแถลง”
“หมอชลน่าน” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รับบทหนังหน้าไฟ เดินลุยไฟ รับทัวร์ลง โดนขุดอดีตย้อนคำพูดไม่สนับสนุนเผด็จการ และไม่จับพรรค 2 ลุง ร่วมกันตั้งรัฐบาล ภายหลังส่งเทียบเชิญพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เข้าหารือแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตประเทศ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณพลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล
“นพ.ชลน่าน” ให้สัมภาษณ์รายการคมชัดลึก ตอนหนึ่งว่า ตนรักษาคำสัตย์แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตตนได้พูดไว้จริง ตอนหาเสียงทำหน้าที่หาเสียง เป้าหมายเราเป็นรัฐบาลพรรคเดียว กลยุทธ์ใดที่จะสามารถทำได้ก็ใส่ไปให้หมด แต่ตอนนี้มีคำถามว่าตนจะรักษาคำมั่นสัญญาหรือไม่ ซึ่งตนยังไม่สามารถตอบได้ เพราะมันยังไม่เกิดขึ้น รอให้มันเกิดขึ้นจริงก่อน การเชิญพรรคการเมืองต่างๆมาพูดคุยเพื่อหาแนวทางจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทยก็ส่งแต่ละพรรคมาหาแนวทาง สิ่งเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องทำ
โดยวิธีการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราหาเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี เรายังไม่เชิญเขามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะแม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วพรรคเพื่อไทยจะทำอะไรก็ได้ เรายึด 8 พรรคที่ลงเอ็มโอยูเดิม ขั้นตอนที่เราทำคือถามว่าถ้าท่านจะโหวตให้นายกรัฐมนตรีจากเพื่อไทย ท่านติดเงื่อนไขอะไร โหวตได้หรือไม่ เราไม่ได้บอกให้เขามาร่วม
“แม้เราจะเชิญเขามาร่วมรัฐบาล เขาก็บอกว่าเงื่อนไขเขาถ้ามีเรื่อง ม.112 เขาก็ไม่ร่วม เขาก็ไม่โหวต ซึ่งวิธีการของเราไม่ได้หาพรรคร่วมรัฐบาล เราเพียงไปหาคะแนนมาก่อน ถึงแม้เขาจะให้คะแนน แต่ถ้าเกิด 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลบอกว่าไม่เอา มันก็จะเป็นคำตอบต่อไป”
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ตนขอยกตัวอย่าง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เขาก็ตอบชัดว่าไม่ได้มาคุยเพื่อจัดตั้งรัฐบาล เขามาตอบคำถามพรรคเพื่อไทยว่าทำไมโหวตไม่ได้ ซึ่งเราก็ทราบว่าถ้าเราอยู่ร่วมกัน 8 พรรคเขาก็ไม่โหวตให้
สำหรับ การแถลงข่าวร่วมกับ 5 พรรค ภายหลังหารือเสร็จนั้น เราให้เขาแถลงจุดยืนของเขา ซึ่งเขาก็บอกว่าถ้ามี ม.112 เขาไม่ร่วม เราก็เอาที่เขาบอกว่าติดขัดอะไรมาแจ้ง 8 พรรค เราไม่ใช้วิธีการเก็บข้อมูลที่กระจัดกระจายแล้วนำมาบอกกับ 8 พรรค เราต้องการฟังจาก กก.บห. ของทุกพรรค เพราะเขามีอำนาจในการตัดสินใจ
“ที่จำเป็นต้องทำแบบเปิดเผยเพราะระยะเวลามันใกล้มาก และหากจะเชิญเขามาร่วมรัฐบาล พรรคแกนนำต้องเทียบเชิญไปที่ทำการของพรรคเขา ต้องไปหาเขา เพื่อให้เกียรติ ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ถ้าทำแบบนี้ก็จะเขาใจผิด เราเลยเชิญเขามาดีกว่า พร้อมกำหนดประเด็นหารือให้ชัดเจน เพื่อขจัดข้อกล่าวหาว่าแอบแทงข้างหลังหรือเปล่า”
ผู้ดำเนินรายการถามว่า การพูดคุย 5 พรรคการเมือง ซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าไม่ร่วมงานกับพรรคก้าวไกล และไม่ต้องการให้มีนโยบายแก้ไข ม.112 จะเป็นการยืมมืออีกฝั่งมากดดันพรรคก้าวไกล ถอยเป็นไปฝ่ายค้านหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในมุมพรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย พรรคเพื่อไทยพยายามทำอย่างเปิดเผย เพราะเงื่อนไขที่เขาตั้งไว้คือเขาไม่เอา เราก็พยายามทำให้เขาเอาคะแนนมาให้เรา ถ้าไม่ทำอย่างเปิดเผยจะมีข้อครหานินทามากกว่านี้ เราคุยแล้วนำข้อเสนอมาให้เพื่อนตัดสินใจร่วมด้วย ไม่ใช่เราตัดสินใจเอง โดย 8 พรรคต้องตัดสินใจร่วมกัน
สำหรับกรณีที่พรรคก้าวไกลยืนยันมาแล้วร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างไม่ได้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนมีหน้าที่รวบรวมคำตอบทั้ง สส. และ สว. เข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรค โดยจะบอกว่าพรรคใดมีเงื่อนไขอะไรบ้าง สว.มีกี่คนที่จะโหวตให้ และมีกี่คนที่ไม่โหวตให้เลย เมื่อเสนอข้อมูลไปจะเป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่จะใช้ประกอบการพิจารณา หากพรรคก้าวไกลยืนยันตามที่แถลงการณ์ว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะร่วมงานด้วยไม่ได้ ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่า จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค เดินเข้าสู่ทางตันหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ไม่ตันครับ อย่าคิดว่ามันตัน ทุกอย่างมันมีทางออก แม้จะดูเหมือนว่าสมการมันจะตัน เราเลยกำหนดแนวทางอื่นๆไว้ด้วย ที่เราเชิญเขามาเราต้องการดูวิธีคิด โอกาสที่จะเป็นไปได้ว่าจะมีกี่พรรคที่จะลดเงื่อนไข เพราะถ้าไม่ลดเงื่อนไขมันก็จบ”
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลบอกชัดเจนว่าตอนนี้เป็นสิทธิ์ที่พรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจ แล้วพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจอย่างไร เพราะมีทางเดียวคือการสลับขั้ว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ข้อมูลที่เรานำเข้าสู่ที่ประชุมทั้งหมดให้ทุกคนช่วยกันดูแล้ว มีพรรคบางพรรคเขายอมลดเงื่อนไข ซึ่งต้องถามพรรคก้าวไกลว่าจะลดเงื่อนไขตามที่เขาเสนอมาหรือไม่ ถ้าพรรคก้าวไกลบอกว่าไม่ลดเงื่อนไขก็จบไป แต่ถ้าพรรคก้าวไกลยอมลดเงื่อนไข เราก็ไปถามพรรคบางพรรคว่าพรรคก้าวไกลยอมลดเงื่อนไขแล้ว จะมาเข้าร่วมรัฐบาลกับเราหรือไม่”
“สมมุติว่าเราได้มา 1 พรรคแล้ว เรามองมุมดีว่าเงื่อนไขที่พรรคก้าวไกลเสนอมามันยอมลดได้ ไม่กระทบนโยบายที่เคยประกาศไว้ เหมือนที่ถอนในเอ็มโอยู สมมุติว่าพรรคก้าวไกลยอมลดเงื่อนไขแล้ว แต่ได้มาแค่ 2 เสียง เพราะอีก 4 พรรคเขายืนยันอีกแบบ ส่วน สว. ก็ตอบมาในทิศทางเดียวกัน เมื่อได้เสียงเพิ่มไม่พอ เราก็ต้องมาคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร เช่น มีพรรคหนึ่งให้รออีก 10 เดือน เพื่อให้ สว. หมดอายุก่อน เราก็มาพิจารณากัน”
“การรอ 10 เดือน มันสุ่มเสี่ยง เพราะขั้ว 188 เสียง เขารวมกับ สว. 249 เสียง เขาสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยมีเสียงข้างมากในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งในสภาผู้แทนราษฎรเขา ก็จะมีวิธีบริหารจัดการของเขา”
“นพ.ชลน่าน” ทิ้งท้ายว่า “ในการประชุมวันที่ 25 ก.ค. ที่ประชุม 8 พรรค จะพิจารณาข้อมูล แต่จะสรุปว่าจะอยู่ด้วยกัน จะแยกกัน ก็ต้องอยู่ใน 8 พรรค สมมุติพรรคเพื่อไทยตัดสินใจว่าเราไปด้วยกันไม่ได้แล้ว เราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เลย 8 พรรคก็ต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร”
“สมมุติพรรคเพื่อไทยเสนอว่าทุกอย่างมันไปไม่ได้แล้ว พรรคเพื่อไทยขอถอนตัวออกมา ทุกพรรคจะว่าอย่างไร หรือพรรคใดพรรคหนึ่งขอออกมา ทุกพรรคจะว่าอย่างไร ถ้าบอกว่ายอมรับ ก็จะเอาความเห็นพ้องมาแถลง”