ยึดประโยชน์ประชาชน สิ่งที่ต้องมีในตัวผู้นำ
หากพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้จริง และ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับมาไทยได้จริงในวันที่ 10 ส.ค. นี้ ก็เป็นโอกาสของเพื่อไทย ว่าจะสามารถทำให้นโยบาย “ประชานิยม” แก้ปัญหาเศรษฐกิจทั้งเพิ่มรายได้ ลดหนี้สิน สร้างโอกาสธุรกิจให้เป็นจริงได้หรือไม่
หากพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้จริง โดยมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” และ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับมาไทยได้จริงในวันที่ 10 ส.ค. นี้ ที่สนามบินดอนเมือง ตามที่ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร" ประกาศไว้ ก็เท่ากับว่าการประกาศ “กลับบ้าน” ของ“ทักษิณ” ครั้งนี้จะเป็นจริง ซึ่งตลอด 15 ปีเขาประกาศกลับไทยถึง 17 ครั้ง ครั้งแรกประกาศวันที่ 28 ก.พ. 2551 หลังรัฐประหาร 2549 และล่าสุดวันที่ 24 มี.ค.2566 และยังเป็นการ ‘ปิดตำนาน’ ผู้ต้องหาหลบหนีคดีตั้งแต่ปี 2551
ซึ่งมีคดีที่หมดอายุความแล้วคือ คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่มีการกล่าวหาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร (ภริยา และนามสกุลขณะนั้น) และทักษิณ ซื้อที่ดินจำนวน 33 ไร่ 78 ตารางวา ราคา 772 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2551
และคดียกฟ้องแล้วคือ คดีกล่าวหาว่าอนุมัติให้กระทรวงการคลังเข้าไปบริหารจัดการแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อเครือกฤษดามหานครกว่าหมื่นล้านบาทโดยทุจริต โดยศาลฎีกาฯ พิพากษายกฟ้อง ทักษิณ จำเลยที่ 1 โดยเห็นว่า คำว่า ‘ซูเปอร์บอส’ หรือ ‘บิ๊กบอส’ ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้สั่งการ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคือ “ทักษิณ”
แต่หาก “ทักษิณ” กลับไทยได้จริงจะต้องโทษจำคุก 10 ปี ใน 3 คดีที่ศาลมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแล้ว ประกอบด้วยคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า คดีหวยบนดิน โดยศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุกทักษิณ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4,000 ล้านบาท แก่รัฐบาลสหภาพพม่า ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 (เดิม) และคดีให้บุคคลอื่น (นอมินี) ถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน โดยบริษัท ชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ และเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม โดยศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา
หาก ‘ทักษิณ’ กลับไทยได้จริงก็หมายความว่า “กลุ่มอำนาจเก่าสายอนุรักษนิยม" ไม่ได้หวาดกลัว "ทักษิณ" อีกต่อไปแล้ว และเป็นโอกาสของ "ทักษิณ" และ "พรรคเพื่อไทย" ว่าจะสามารถทำให้นโยบาย “ประชานิยม” แก้ปัญหาเศรษฐกิจทั้งเพิ่มรายได้ ลดหนี้สิน สร้างโอกาสธุรกิจให้เป็นจริงได้หรือไม่ โดยเฉพาะโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล เติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับคนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล ในระยะยาวนำพาประเทศเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางของ FinTech
การเพิ่มรายได้เกษตรกรเป็น “3 เท่าภายในปี 2570” จากรายได้เฉลี่ย 10,000 บาท/ไร่/ปี เพิ่มเป็น 30,000 บาท/ไร่/ปี ขณะที่ผลผลิตต่อไร่ของชาวนาไทยต่ำกว่าเวียดนามถึง 3 เท่า และมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าครึ่งหนึ่งของรายรับ
รวมถึงการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทต่อวันภายในปี 2570 ซึ่งต้องอาศัยกลไกของไตรภาคี (นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐ) ที่สำคัญต้องสอดคล้องกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ผลิตภาพแรงงาน (Productivity) และอัตราเงินเฟ้อ (Inflation) ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนภาคอุตสาหกรรม และกระทบฐานการผลิตของภาคอุตสาหกรรมหรือไม่ เหล่านี้ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและพลังที่ทำให้เป็นจริงเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน