‘ชูวิทย์’แฉซูเปอร์ดีลฮ่องกง-ยืมภท.ฉีกเอ็มโอยู-ชายร่างใหญ่สูงนั่งนายกฯ

ที่โรงแรมเดอะเดวิส บางกอก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง แถลงข่าวประเด็นกรณี “ทำไม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงกลับบ้าน” โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ฝั่งประชาธิปไตย หรือฝั่งที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้ง เมื่อรวมตัวเป็น 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้เสียงในสภาไปทั้งหมด 312 คะแนน ส่วนอีกฝ่ายที่เป็นขั้วรัฐบาลเดิมมีเสียงในสภาที่ 188 คะแนนเสียง

นายชูวิทย์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในวันลงนามข้อตกลงร่วมกันของ 8 พรรคร่วมนั้น คนที่ได้ไปจับมือบนเวทีในงานแถลง เมื่อลงมาจากเวทีก็มีความเชื่อว่าจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้จริง การร่วมกันสำหรับ 8 พรรคล่มตั้งแต่วันแรก หรือมีความตั้งใจจะให้ล่มตั้งแต่วันแรกแล้ว

สำหรับข้อตกลงร่วมกันรอยร้าวแรกที่เกิดขึ้นสังเกตเห็นมาตั้งแต่การเลือกตั้งประธานสภา ที่สุดท้ายต้องหาคนกลางมาทำข้อสรุปให้จบลง ต่อมาการโหวตนายกฯ รอบแรกก็ไม่ผ่านสมาชิกวุฒิสภา รอบที่ 2 ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จนกระทั่งมีการเลื่อนโหวตนายกฯรอบที่ 3 ให้ไปเป็นวันที่ 3 สิงหาคม 
 

ต่อมาเมื่อพรรคเพื่อไทยได้รับภารกิจจากพรรคก้าวไกลให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้มีการเชิญฝ่าย 188 เสียง ขั้วรัฐบาลเดิมมาพูดคุยหารือ หาแนวทาง แต่ในทางการเมืองเพื่อเป็นการแสดงให้สื่อและประชาชนได้เห็นว่ามีการพูดคุย มีการชักชวนตามมารยาทแล้ว

นายชูวิทย์ กล่าวถึง ประเด็นซุปเปอร์ดีล พร้อมเปิดเผยภาพถ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อเวลา 15.00 น. ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่เมืองเกาลูน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยในภาพมีนายทักษิณ ชินวัตร, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, แกนนำพรรคเพื่อไทย, กลุ่มทหาร และกลุ่มนายทุน ว่าทำไมพรรคเพื่อไทยจะต้องไปหารือ เพราะพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนอยู่ตรงกลาง เป็นตัวแปรระหว่างฝั่งจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียง และฝั่งรัฐบาลเดิม 188 เสียง

“การที่ทักษิณกลับมาเป็นเงื่อนไขในการปล่อยซุปเปอร์ดีลนี้ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเงื่อนไข แต่ผมมองว่าทักษิณจะมาเป็นคนคุมเกม อย่างไรก็ตาม การกลับมาของทักษิณเป็นไปได้ทุกเวลา แต่ทำไมถึงกลับมาในช่วงเวลานี้ เพราะตอนนี้ถือเป็นจุดสำคัญ”

 

จากนั้นนายชูวิทย์ ยังได้กล่าวถึงสูตรจัดตั้งรัฐบาลซุปเปอร์ดีล ประกอบไปด้วย พรรคเพื่อไทย, พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล และพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยว่า “สูตรนี้มั่นใจว่าจะเป็นสูตรที่ทำสำเร็จ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสูตรนี้จะเป็นสูตรที่ปล้นประชาชน”

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า การที่พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำเป็นเจ้าบ้านสูตรนี้น่าจะสำเร็จ เพราะภูมิใจไทยสามารถเชิญหลายพรรคการเมืองที่หลากหลายมาพูดคุยได้ อาทิ พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ แต่อย่างไรก็ตาม สูตรนี้ยืนยันได้ว่าจะไม่มีการรวมกันของ 2 ลุง พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติอย่างแน่นอน เป็นไปได้ที่สุดคือมีพรรคพลังประชารัฐร่วม 1 พรรคเท่านั้น

“การที่ทักษิณกลับไทยสอดคล้องกับซุปเปอร์ดีลอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากถามว่าถ้าทักษิณกลับมาก็จะต้องรับโทษในหลายคดี ซึ่งบุคคลที่อายุมากกว่า 70 ปี จะนับว่าเป็นผู้สูงอายุ การที่ผู้สูงอายุเข้าไปในเรือนจำตามหลักการ แม้จะเข้าไป 1 หรือ 2 ชั่วโมง หรือแม้กระทั่ง 1 วัน บุคคลนั้นจะสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ เพราะว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องขัง” นายชูวิทย์ระบุ

จากนั้นเวลา 14.38 น. นายชูวิทย์ ได้ยกสแตนดี้ชายสูงใหญ่ พร้อมระบุว่า จะเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งบุคคลที่จะเป็นนายกฯนั้น นายชูวิทย์ระบุว่า จะต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งในหัวข้อนายกรัฐมนตรีคนใหม่นี้ ตนพร้อมที่จะอภิปรายนอกสภาถึงความซื่อสัตย์ ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ต้องเดินหน้าตรวจสอบ แต่วันนี้ตนสามารถให้ข้อมูลได้ว่า ว่าที่นายกฯคนดังกล่าวมีบุคคลสำคัญที่เรียกว่า ‘ขงเบ้ง’ เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง คนนี้เป็นที่รู้จักในวงการหุ้น, อสังหาริมทรัพย์ และที่ดิน ขงเบ้งเป็นคนไร้ร่องรอย แต่เป็นผู้หยั่งรู้ในวงการหุ้น วงการที่ดิน

สำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 นายชูวิทย์ระบุว่า ไม่มีทางที่จะสำเร็จ เปรียบเหมือนการโหวตหลอก โดยแคนดิเดตนายกฯที่เพื่อไทยจะเสนอคือบุคคลสูงอายุ การโหวตเลือกครั้งที่ 3 ที่ตนมั่นใจว่า จะไม่สำเร็จส่วนหนึ่งเพราะนายทักษิณยังไม่เดินทางกลับมา 

ฉะนั้นหลังจากการกลับมาของนายทักษิณที่ตนมีข้อมูลว่าขณะนี้พักอยู่ที่ประเทศกัมพูชา 10 สิงหาคม จะสามารถโหวตนายกฯได้สำเร็จ ซึ่งนายกฯคนนั้นมาจากพรรคเพื่อไทย เป็นชายรูปร่างสูงและทุกกระบวนการทั้งการได้นายกฯ และการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคม

นายชูวิทย์ กล่าวว่า นายทักษิณกลับมาครั้งนี้จะอยู่ในสถานะตัวประกัน และผู้คุมเกม ที่สามารถระบุได้อย่างนี้ เพราะถ้านายทักษิณกล้ากลับมา นายทักษิณต้องเป็นตัวประกันก่อน

เมื่อถามว่า การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯจะเปลี่ยนแปลงไปจากนี้หรือไม่ นายชูวิทย์กล่าวว่า การเมืองคือรัฐศาสตร์ สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ การที่ตนออกมาพูด ตนถือว่าเป็นโรบินฮู้ดปกป้องคะแนนเสียงของประชาชน เพราะสูตรซุปเปอร์ดีลนี้เป็นการปล้นเสียงของประชาชน

เมื่อถามว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลถือว่าพรรคเพื่อไทยยืมมือภูมิใจไทยฉีกข้อตกลงร่วมของ 8 พรรคร่วมหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่แน่นอน ยืมทั้งมือ ยืมทั้งปาก เมื่อถามว่า สิ่งที่นายทักษิณจะทำเมื่อกลับมาถึงประเทศไทยคืออะไร นายชูวิทย์ กล่าวว่า "คุกเข่า พนมมือ และก้มกราบ"