มท.1 ลงพื้นที่เยียวยาผู้ประสบภัยโกดังเก็บพลุระเบิด อ.สุไหงโกลก 1 ส.ค.
มท.1 เตรียมลงพื้นที่ ติดตามเยียวยา ฟื้นฟู ผู้ประสบภัยเหตุโกดังเก็บพลุระเบิดพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก 1 ส.ค.นี้ เร่งสำรวจความเสียหาย ส่งน้ำ รถสุขา ไฟฟ้า เข้าช่วยเหลือเบื้องต้น นายกฯห่วง สั่งสำรวจเยียวยาเพิ่ม
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2566 พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เตรียมลงพื้นที่ ติดตามการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยเหตุโกดังเก็บพลุระเบิด ในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ในวันอังคารที่ 1 สิงหาคมนี้ เบื้องต้นได้รายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือในพื้นที่ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว ซึ่งนายกฯ ห่วงใย และสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล ผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และคนในชุมชนอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการเยียวยา และฟื้นฟู ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตเพิ่มเติมโดยให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง โดยจะนำเงินจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแลนอกเหนือจากเงินช่วยเหลือเบื้องต้นของท้องถิ่น และกระทรวงมหาดไทย
โดยในวันนี้ (31 ก.ค.) รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายแล้ว ส่วนความเสียหายล่าสุดจากการตรวจสอบ พบว่า ภายในร้านฯยังมีประทัด ดอกไม้ไฟ พลุอีกจำนวนหนึ่ง และ เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเรื่องการขอใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ต่อไป
พลเอกอนุพงษ์ ยังกล่าววว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นการไฟฟ้า ก็จะพยายามต่อไฟเข้าบ้านที่ยังพักอาศัยได้ เช่นเดียวกับน้ำประปา ก็จะมีการจัดรถน้ำไปอำนวยความสะดวก พร้อมจัดหาห้องน้ำไว้บริการ ขณะเดียวกัน ท้องถิ่นประสานหลายหน่วยงานเข้าซ่อมแซ่มบ้านเรือนที่เสียหาย ทั้งจากกองทัพ ตำรวจ อาชีวะศึกษา ด้วยการส่งช่างเข้าไปช่วยซ่อมบ้านเรือนที่เสียหาย
อย่างไรก็ตามการช่วยเหลือในขณะนี้มีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนพักอยู่ในศูนย์พักพิง จากรายงาน 9 คน นอกนั้นพักกับญาติที่อยู่ในพื้นที่
ทั้งนี้ จากรายงานท้องถิ่นล่าสุด ที่รายงานมายังกระทรวงมหาดไทยพบว่าล่าสุด (31 ก.ค.) พบผู้เสียชีวิต 12 รายประกอบด้วย 10 รายสามารถระบุตัวตนได้แล้ว ส่วนอีก 2 รายยังรอการพิสูจน์ทราบ ที่ รพ.สงขลานครินทร์เพื่อยืนยันอีกครั้ง มีผู้มาแจ้งความเสียหาย แล้ว 164 ราย รวมกับเมื่อวาน 365 ราย รวม 492 ราย
ขณะที่ ผู้ได้รับความเดือดร้อนที่พักที่ศูนย์พักพิงขณะนี้เหลือ 13 ราย ส่วนใหญ่กระจายไปพักอยู่บ้านญาติ และมีผู้ป่วย 10 รายเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ในพื้นที่มีโรงครัวพระราชทาน เหล่ากาชาด บริการอาหาร 3 มื้อ