"วิทยา" ติง "วันนอร์" เร่งโหวตนายกฯ ทำคนประสาทเสีย หากฝืน รทสช.มีแค่2 ทาง

"วิทยา" ติง "วันนอร์" เร่งโหวตนายกฯ ทำคนประสาทเสีย หากฝืน รทสช.มีแค่2 ทาง

"วิทยา"ติง "วันนอร์" อย่าเร่งรัด โหวตนายกฯ4 ส.ค. หวั่น คนประสาทเสีย รอให้พร้อม หากฝืนรทสช.มี 2 ทางโหวตสวน-งดออกเสียง ลั่น "เศรษฐา" ต้องโชว์วิสัยทัศน์ ปม ม.112

เมื่อเวลา 17.50 น. วันที่ 2 ส.ค. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมส.ส.ของพรรค ซึ่งใช้เวลาการประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมวันนี้เป็นการประชุมตามปกติก่อนมีการประชุมสภา เพื่อกำหนดประเด็นในการทำงานในสภา ซึ่งในสัปดาห์นี้จะมีการประชุม 2 วัน โดยในวันที่ 3 ส.ค.เป็นการพิจารณาเรื่องของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งยังมีเรื่องที่พรรคติดใจคือการกำหนดระเบียบวาระของสภาที่แจ้งให้ทราบซึ่งมีเรื่องที่ค้างการพิจารณาในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. เกี่ยวกับการรายงานงบดุลทางการเงินของหน่วยงานต่างๆยังค้างการพิจารณาถึง 6 เรื่อง หายไปจากระเบียบวาระการประชุมและนำเสนอเรื่องใหม่เข้ามา ทั้งเรื่องพระราชบัญญัติและพระราชกำหนดและญัตติ ทั้งๆที่การประชุมสภาควรมีการกำหนดว่าวันแรกจะพิจารณาเรื่องอะไร เรื่องญัตติเรื่องหารือ ส่วนวันที่ สองเป็นการพิจารณาเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการกำหนด ทั้งนี้วาระที่ประธานสภาส่งมาให้ส.ส.ค่อนข้างสับสน พรรคจึงได้เตรียมสมาชิกเพื่อหารือเพื่อหามาตรการต่างๆเพื่อให้เกิดความลงตัว 

นายวิทยา กล่าวว่า สำหรับการประชุมร่วมรัฐสภาในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค. ระเบียบวาระมี 2 เรื่อง เรื่องที่สำคัญคือการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัญหาจนถึงวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีชี้ชัดลงมา และเราก็ไม่มั่นใจว่าในวันที่ 3 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยหรือไม่ แล้วในวันที่ 4 ส.ค.ตามที่ประธานสภาได้นัดหมายมีอะไรเปลี่ยนแปลงและท่านรู้ได้อย่างไร หรือจะมาเริ่มต้นการพิจารณาใหม่ แล้วหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปอีกทางหนึ่งก็จะเกิดบรรยากาศคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้น ดังนั้นการเร่งรัดของประธานสภาทำให้เกิดความไม่แน่นอนของสถานการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าติดตามการเมืองทั้งหมดวันนี้ก็ได้ทราบชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้มีการประกาศยกเลิกข้อตกลงหรือเอ็มโอยูของ 8 พรรคเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหมายความว่าจะเริ่มต้นใหม่ของการจัดตั้งรัฐบาล และทราบว่าจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี 


"ก็ต้องรอดูเพราะถ้าเสนอชื่อนายเศรษฐาท่าทีของสว.จะคิดอย่างไร จากที่นายเศรษฐาเคยยืนยันที่ต้องจับมือกับก้าวไกลมาโดยตลอด และเคยประกาศสนับสนุนแก้ไขมาตรา 112 เรื่องนี้ต้องดูว่าสว.จะคิดอย่างไร และนายเศรษฐาจะมีคำตอบอย่างไรต่อที่ประชุมรัฐสภา และจะต้องมีคำตอบกับพวกผมที่เราไม่เอาเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งทุกอย่างจะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณา รทสช.ยืนยันถ้ามาแล้วมีคำตอบที่ไม่มั่นใจ ยืนยันอะไรไม่ได้ เราก็ผ่านให้ไม่ได้"นายวิทยากล่าว

เมื่อถามว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ได้ให้คำแนะนำอะไรบ้าง นายวิทยากล่าวว่า นายพีระพันธุ์ให้ทุกคนดูตามสถานการณ์ ซึ่งในฐานะประธานวิปก็จะมีการหารือในสถานการณ์นั้นๆ ว่าจะลงมติสวนเลยหรือจะงดออกเสียงหากไม่มีความชัดเจน มีแค่ 2 ทางนี้เท่านั้น 

เมื่อถามว่า ยังไม่มีการประสานงานในการจัดตั้งรัฐบาลมาจากพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า เรื่องโทรศัพท์คุยกันประสานงานกัน ไม่ใช่การจัดตั้งรัฐบาล การตั้งรัฐบาลจะต้องมีความพร้อม และพร้อมที่จะทำนโยบายร่วมกัน แต่แค่การโทรศัพท์หารือกันส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องตลก อีกทั้งประธานสภาก็ควรให้เวลากับพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่นึกแค่เพียงว่าตั้งรัฐบาลแค่ say hello สองคำแล้วไปตั้งรัฐบาล มันไม่ใช่ วันนี้เป็นเรื่องของบ้านเมืองตั้งรัฐบาล ดังนั้นทุกอย่างต้องชัดเจนว่าทำอะไร ไม่ใช่แค่ว่าสัปดาห์หน้าตัวประธานสภาไม่อยู่ จะต้องรีบประชุมในสัปดาห์นี้ เพื่อที่สัปดาห์ต่อไปกลับมาจะเรียกประชุมทันที ส่วนตัวคิดว่าขอให้ไปตั้งหลักกันให้ดี อย่างน้อยประธานสภาต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนว่าเขาจะตั้งรัฐบาลแล้ว ตั้งกันอย่างไรและตกลงกับใครและจะต้องได้หรือไม่ ไม่ใช่จะนัดสุ่มไปเรื่อยๆนัดกันไม่รู้จักจบประชาชนจะเกิดความรำคาญ วันนี้ควรให้เวลาพรรคเพื่อไทยไปเตรียมการ จะ 5 วัน 10 วันหรือ 20 วัน จนมีความพร้อมก็จะดีกว่า ไม่ต้องนัดทุกสัปดาห์ 

เมื่อถามว่า รทสช.ต้องการให้นายเศรษฐาออกมาพูดให้ชัดใช่หรือไม่เรื่องของมาตรา 112  นายวิทยากล่าวยอมรับว่า ใช่ เรื่องนี้ต้องตอบในสภา ซึ่งสว.และส.ส.ก็รอฟังอยู่ เมื่อจะเป็นนายกฯก็ต้องมีความพร้อมในการที่จะเข้าไปอธิบายในสภา เหมือนที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยทำ นายเศรษฐาต้องขออนุญาตสภาเพื่อไปชี้แจงกับสมาชิกว่าจะเข้ามาเป็นนายกฯรวมทั้งตอบข้อซักถามของสมาชิก 

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะเชิญ รทสช.เข้าร่วมรัฐบาล โดยขอเวลาตัดสินใจ 50ต่อ50 นายวิทยา กล่าวว่า มีทางเดียวถ้ายัง 50ต่อ50 ก็คงเลื่อนการประชุม ถ้าให้ตนประเมิน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่าสมาชิกพรรค รทสช.บางคนอาจจะไปเป็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย นายวิทยากล่าวว่า วันนี้กูรูทางการเมืองมีเยอะ ทำตัวเป็นหมอดูและวิเคราะห์กันได้ทุกวัน และที่ผ่านมาก็หักปากกากันมาเกือบทุกคนแล้ว แต่ก็ยังวิเคราะห์กันต่อวันนี้ขอให้เอาเรื่องจริงดีกว่า เมื่อถามย้ำว่า กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค รทสช. พี่มีข่าวจะย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า ขอให้เอาเรื่องจริงกันดีกว่า และในความเป็นจริงพรรคจะตัดสินใจอย่างไรก็ต้องเป็นมติพรรค ไม่มีฟรีโหวต ฉะนั้นเมื่อพรรคมีความเห็นอย่างไรก็จะหารือร่วมกันและเป็นมติออกมา และวันนี้มติของพรรคก็คือ ในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค. ถ้ามีการนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาเราก็จะตัดสินใจในวันนั้น 

เมื่อถามย้ำว่าการตัดสินใจจะร่วมรัฐบาลหรือไม่จะตัดสินใจได้วันไหน นายวิทยากล่าวว่า ก็ต้องดูในวันศุกร์ที่ 4 ส.ค.ว่านายเศรษฐาจะมาตอบว่าอย่างไร เพราะวันนี้เราก็ได้ยินแต่เพียงข่าว ดูว่าจะมีการยกเลิกคำพูดทั้งหมดที่ผ่านมาหรือไม่ ที่บอกว่าจะจับมือกับก้าวไกลไปตลอด ยกเลิกหรือยัง เมื่อพรรคเพื่อไทยยกเลิกแล้วนายเศรษฐายกเลิกหรือยัง และในเรื่องที่ 2 นายเศรษฐายังติดใจที่จะแก้มาตรา 112 ตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ คำรับปากใน 2-3 เรื่องนี้จะเชื่อถือได้หรือไม่ ก็จะเป็นสิ่งที่ประกอบการตัดสินใจของ รทสช.

เมื่อถามย้ำว่าเหมือนพรรค รทสช.ระแวงอยู่ใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ก็ต้องตามดู อย่าเพิ่งไปประเมินเนื่องจากวันนี้นายเศรษฐายังไม่ได้ออกมาพูดอย่างชัดเจน ซึ่งก็ต้องถามในที่ประชุมร่วมรัฐสภาและดูว่านายเศรษฐาจะชี้แจงอย่างไร ซึ่งนายเศรษฐาต้องเข้าไปแสดงวิสัยทัศน์ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น 

นายวิทยา กล่าวว่า เราตัดสินใจได้เท่าที่ข้อมูลมีในการโหวตนายกฯ และเชื่อว่าสว.ก็ดูอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น 

เมื่อถามว่าหากประธานสภาฯยืนยันจากประชุมโหวตนายกฯในวันที่ 4 ส.ค.พรรครทสช.มี 2 แนวทาง คือโหวตสวน กับงดออกเสียง นายวิทยากล่าวว่า เวลานี้เป็นแบบนั้น  และประธาน ไม่ได้นัดประชุมวิป 3 ฝ่ายก่อนโหวตนายกฯ

เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังต่อสายพูดคุยกันหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันว่าพรรครวมพรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังอยู่ยังอยู่กันเหนียวแน่น

เมื่อถามต่อว่าแสดงว่ามีความเห็นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน นายวิทยา กล่าวว่า มีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามถ้าประธานสภายืนยันนัดประชุมสส.และสว.เพื่อโหวตเลือกนายกในวันที่ 4 ส.ค.นี้ พรรครทสช. จะไปร่วมประชุม และเชื่อว่าพรรคอื่นๆก็น่าจะไป

เมื่อถามอีกว่าการจับมือของพรรคร่วมรัฐบาล โดยการนำของพรรคเพื่อไทย จะต้องพิจารณาด้วยในเรื่องของนโยบายที่ประกาศใช่หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า วันนี้เอาเพียงแค่ว่าเขาจะประชุมจริงหรือไม่จริงก่อนจะดีกว่า หากประชุมและเสนอใครมาเป็นนายกฯ ก็ต้องดูกันอีกที และเขาไม่ได้ยืนยัน 100% ว่าจะส่งใคร หรือเขาอาจจะขอเลื่อนไปก่อนก็ได้ เพราะรอดูสถานการณ์แล้วเหมือนไม่พร้อมที่จะตั้งรัฐบาล การที่ยังไม่คุยกับใครคือไม่พร้อมเป็นการนัดเล่นๆ  ขอให้เลิกเสียที่นัดเล่นๆ ประธานสภาฯต้องยุตติ พร้อมจริงๆแล้วค่อยมาไม่เช่นนั้นจะกดดันชาวบ้านประสาทเสียหมด อีก 20 วันค่อยมาก็ได้  และในการตั้งรัฐบาลไม่ใช่เล่นนัดกันทุกอาทิตย์ คิดว่าชาวบ้านจะประสาทเสียกับการนัดทุกอาทิตย์ของสภาฯ ไม่ได้ทำเรื่องอื่น