"นายกฯ" ตรวจอาคารเทียบเครื่องบิน ก่อนเปิดใช้ ก.ย.นี้

"นายกฯ" ยกคณะ ตรวจความคืบหน้าเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ก่อนเปิดจริง ก.ย.นี้ คุยนักท่องเที่ยวเหยียบสนามบินวันละ1.5 แสน วอนมองผลงานรัฐบาลด้วยตาอย่าจ้องแต่ติติง ขัดแย้งจนชาติเดินไม่ได้
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง คมนาคม และรักษาการราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายธนกร วังบุญคงชนะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าตรวจความพร้อมเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT – 1)
โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะตรวจเยี่ยมระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) และตรวจเยี่ยมพื้นที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT – 1) พร้อมดูพื้นที่ทางวิ่งเส้นที่ 3 บริเวณอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT – 1) ด้านทิศตะวันตก
ทั้งนี้ระหว่างการตรวจเยี่ยมความพร้อม ด้าน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย ได้รายงานถึงความคืบหน้าในการดำเนินการในพื้นที่ต่างๆ โดยได้เชิญนายกรัฐมนตรี ทดลองรถไฟฟ้า APM ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบไร้คนขับเพื่อใช้ในการรับส่งผู้โดยสาร พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังได้สอบถามความคืบหน้าการดำเนินการในทุกๆด้านและชื่นชมการทำงานที่ดำเนินการมาได้อย่างดี รวมถึงการนำ ประติมากรรมช้างคู่โลหะ หงส์คู่ พระปางเปิดโลก จากวัดผาซ่อนแก้วจังหวัดเพชรบูรณ์ มาจัดไว้ให้ผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศประทับใจถึงศิลปและวัฒนธรรมไทย
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีพร้อคณะยังได้แวะพัก อิริยาบถ ด้วยการดื่มกาแฟและของว่างหลังจากที่เดินตรวจความพร้อม ระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตร
ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังตรวจความพร้อมเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ช่วยกันทำงานของรัฐบาลให้ประสบความสำเร็จ และมีอีกหลายอย่างที่ได้ทำไว้แล้ว ซึ่งตนจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนในพื้นที่อีอีซี สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรืออีกครั้งเพราะนี่คือผลงานที่รัฐบาลได้เริ่มไว้แล้ว จะถือเป็นความก้าวหน้า
"ถ้าเรามองอย่างเป็นธรรมเห็นด้วยตาอ่านอะไรก็แล้วแต่ขอให้ดูว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ ถ้าเราไม่ร่วมมือกันมันทำไม่ได้ทั้งหมด และนี่คือตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าวันข้างหน้าเราจะต้องร่วมมือกันอย่างนี้ ซึ่งจะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นอีกมากมายหลายมิติ วันนี้จากการรับฟังรายงานทราบว่าทุกอย่างดีขึ้น นักท่องเที่ยวเข้ามาวันละ 150,000 คน ขณะเดียวกันการบินไทยเราก็พลิกฟื้นขึ้นมาในระดับที่น่าพอใจ และคาดว่าน่าจะแก้ปัญหาได้เร็วกว่าเดิม 1 ปีในการที่จะเป็นสนามบินแห่งชาติถือว่าทุกคนช่วยกัน ดังนั้นไม่ว่าจะติติงอะไรต่างๆก็ตามอย่าลืมว่าเราทำอะไรและจะได้อะไร อะไรที่ยังไม่เคยทำ แล้วทำหรือเปล่า อันนี้ต้องคิดและช่วยกันทำความเข้าใจด้วย อย่าให้มันมีความขัดแย้งไปเรื่อยๆทุกๆเรื่องจนกระทั่งประเทศชาติเดินหน้าไปไม่ได้ ผมมีแค่นี้ และต้องขอบคุณทุกคน"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว