กกต.คาด 10 ก.ย.เลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง ลุยเอาผิด-เรียกค่าเสียหาย สส.ก้าวไกล
กกต.ลุยถกกำหนดวันเลือกตั้ง สส.ระยอง เขต 3 วันที่ 10 ก.ย.นี้ เล็งเปิดรับสมัคร 15-19 ส.ค. ลุยพิจารณาเอาผิด 'นครชัย' ตาม ม.151 เรียกค่าเสียหายจัดเลือกตั้ง เผยตอนนี้มีร้องกว่า 300 เรื่อง เคลียร์ไปแล้วกว่าครึ่ง ย้ำทุกอย่างเสร็จใน 1 ปี
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2566 ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมจัดการเลือกตั้งซ่อมสส.ระยอง เขต 3 แทนนายนครชัย ขุนณรงค์ สส.พรรคก้าวไกล ว่า หลังมีประกาศกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสส. ระยอง เขต 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง ตามกฎหมาย เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาแล้ว กกต.จะต้องประกาศวันเลือกตั้ง และวันรับสมัครอย่างน้อยไม่เกิน 5 วัน ซึ่งในวันที่ 11 ส.ค.นี้ กกต.จะประชุมว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งและวันรับสมัครในวันที่เท่าไหร่ โดยทางสำนักงานฯ จะเสนอให้ประกาศวันเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย. 2566 และวันรับสมัครคือ 15-19 ส.ค. 2566 แต่ต้องยืนยันในการประชุมวันที่ 11 ส.ค.
เมื่อถามว่ามีการตั้งกรรมการเพื่อเอาผิดมาตรา 151 กับนายนครชัย หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยแล้ว ที่ประชุมขอให้สำนักงานฯ ไปพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ส่วนเรื่องค่าชดใช้ในการจัดการเลือกตั้งก็อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาด้วย ซึ่งสามารถใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ว่าด้วยการละเมิด
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการทุจริตเลือกตั้ง นายอิทธิพร กล่าวว่า นับจากวันที่ปิดรับคำร้องเรียน พบว่ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 350 เรื่อง ถือว่าน้อยกว่าปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 592 เรื่อง ขณะนี้ได้พิจารณาไปแล้วกว่า 50 % โดยในระเบียบการสืบสวน ไต่สวนของกกต.ได้มีการระบุระยะเวลาการพิจารณาคำร้องว่าต้องเสร็จสิ้นถึงขั้นทำคำวินิจฉัยภายใน 1 ปี และเร็วๆ นี้จะออกประกาศระยะเวลาการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้อง ซึ่งระบุไว้ชัดว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ทั้งนี้เรื่องร้องเรียนปี 2566 มีหลายประเด็น ส่วนใหญ่ เป็นมาตรา 73 (1) ซึ่งเป็นเรื่องการซื้อเสียง ใส่ร้าย รวมถึงเรื่องหาเสียงหลอกลวง และเรื่องอื่นๆ เช่น ป้ายหาเสียง ซึ่งเป็นประเด็นที่ไม่ต่างจากที่มีการร้องเรียนเมื่อปี 2562
เมื่อถามถึงการร่วมรัฐบาลมีการออกมาระบุว่า นโยบายที่เคยหาเสียงไว้ ไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้ กกต.มองเรื่องนี้อย่างไร นายอิทธิพร กล่าวว่า นโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง ประการแรกคือตองปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 57 ว่า พรรคการเมืองที่ประกาศนโยบายที่ต้องมีการใช้เงิน จะต้องทำอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม หากมีการจับมือตั้งรัฐบาลแล้ว ไม่ได้ทำตามที่หาเสียง ก็ต้องดูว่าถ้ามีคำร้องเข้ามาหรือไม่ ถ้า กกต.ก็มีหน้าที่พิจารณาว่า เป็นไปตามที่ร้องว่าเป็นการหลอกลวงหรือไม่ อย่างไร แต่ตอนนี้ยังไม่มี