รัฐบาลพิเศษ ลงตัว เสร็จ 2 ลุง พปชร.-รทสช.เข้าร่วม เพื่อไทย
รัฐบาลพิเศษ ลงตัว เสร็จ 2 ลุง พปชร.-รทสช.เข้าร่วม เพื่อไทย “นายใหญ่” เพื่อไทย จบดีล 2 ลุง ลืมอดีต ลบรอยแค้น ฉากแรกลุ้นโหวตนายกฯฉลุย ฉากจบลุ้นโควตา รมต.ลงตัว
แม้ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่สัญญาณทางการเมืองบ่งบอกว่าพรรคเพื่อไทย จบดีล “2 ลุง” ดึง พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ามาอยู่ในพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว เหลือแค่วัน ว. เวลา น. ตั้งโต๊ะแถลงข่าวร่วมกันเท่านั้น
โดยก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย 141 เสียง เปิดตัวพรรคร่วมรัฐบาลประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคท้องที่ไทย 1 เสียง พรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง รวม 238 เสียง
หากบวกรวมกับพรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง จะทำให้รัฐบาลเพื่อไทย มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร โดยมีเสียงรวมอยู่ที่ 314 เสียง ซึ่งหากมองในแง่จำนวนเสียง ถือว่าเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพพอสมควร
แต่หากมองในแง่การต่อรองทางการเมือง การจัดสรรโควตารัฐมนตรี ย่อมไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทย เนื่องจากพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะต่างมีลูกล่อลูกชนทางการเมืองสูงพอตัว
อย่างไรก็ตามการจัดรัฐบาลเพื่อไทยในครั้งนี้ โจทย์ไม่ได้มีเพียงการเข้าสู่อำนาจรัฐของพรรคเพื่อไทย แต่มีเดิมพันการกลับบ้านของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผูกมัดรวมเป็นข้าวต้มมัดอยู่ด้วย
เนื่องจากคนที่จะการันตีความปลอดภัยและสิทธิพิเศษให้กับ “ทักษิณ” คือ “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” ที่ควบคุมกลไกรัฐ ควบคุมอำนาจรัฐ หากไม่มีบริการตรงนี้ “ทักษิณ” ไม่สามารถกลับบ้านได้อย่างแน่นอน
สำหรับบรรยากาศภายในพรรคเพื่อไทย มี กลุ่มคนรุ่นใหม่ สส.รุ่นใหม่ แกนนำเสื้อแดง ไม่เห็นด้วยกับการผนึกกับ “พรรค 2 ลุง” แต่เมื่อเจอเงื่อนล็อกทางการเมือง การโหวตนายกฯต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่มีออฟชั่นอื่นที่จะใช้เดินเกม
แม้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย จะเดินนำหน้า “บิ๊กเพื่อไทย” บากหน้าไปขอเสียงโหวตจาก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อมาเติมเสียงโหวต “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน นั่งนายกฯ
ทว่า “พิธา-ก้าวไกล” ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนมาให้ เพราะต้องการคำตอบที่ชัดเจนจาก “อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย” เหมือนกันว่าจะไม่มี “พรรค 2 ลุง” ร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ไร้คำตอบเช่นกัน เมื่อ “เพื่อไทย-ก้าวไกล” ต่างไม่ไว้ใจกัน จึงถึงเวลาแยกกันเดินอย่างเป็นทางการ
หากพรรคเพื่อไทย ยังเดินเกมแทงกั๊ก ไม่บอกชัดๆจะรวมกับ “พรรค 2 ลุง” หรือไม่ จะรอจนเข้าโหวตนายกฯในที่ประชุมร่วมรัฐสภา โดยไม่แถลงให้ชัดเจน ทางพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ย่อมไม่วางใจพรรคเพื่อไทยเช่นกัน
เพราะหากเข้าสู่การโหวตนายกฯ แล้วมี สส.พรรคก้าวไกล ออกเสียงโหวตให้ “เศรษฐา” ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมถอนตัวกลางอากาศ ซึ่งจะทำให้เสียงโหวต “เศรษฐา” ไม่มีทางมีถึง 375 เสียงอย่างแน่นอน
ว่ากันว่า “ทักษิณ” ปล่อยให้ “อุ๊งอิ๊ง” ลองเดินหมากการเมืองด้วยตัวเอง แต่เจอด่าน “พิธา-ก้าวไกล” ไม่เทเสียงโหวตให้ จึงเป็นหมากบังคับให้ “อุ๊งอิ๊ง” ต้องยอมถอยมาทบทวนตัวเอง ก่อนส่งไม้ต่อให้ “ทักษิณ” กำหนดทางเดินพรรคเพื่อไทย
ค่ำคืนวันที่ 9 ส.ค. จึงมีการเปิดดีลอย่างเป็นทางการกับ “ตัวแทน” ของพรรคพลังประชารัฐ และ “คนกลาง” ของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีกระแสข่าวว่า “ทักษิณ” เคาะจบดีลเองทั้งหมด
หลังจากนี้ต้องติดตามว่าพรรคเพื่อไทย จะนัดหมายพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งโต๊ะแถลงรวมเสียง 238 + 76 ผนึกพรรคจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค รวม 314 เสียง ในช่วงเวลาใด
แต่ฟันธงได้เลยว่าซีนตั้งโต๊ะแถลงร่วมกันมีให้เห็นอย่างแน่นอน เพราะในทางการเมืองหากข้อตกลงยังไม่คอมพลีส การเคลื่อนพล เคลื่อนเกม จะยังไม่มีทางจบ
ดังนั้นวันตั้งโต๊ะแถลงร่วม จะบ่งบอกทิศทางการโหวตนายกฯ รอบ3 ว่าจะราบรื่น หรือต้องล้มกระดานกันอีกรอบ เพราะฉากรักเบื้องหน้า อาจต้องขึ้นอยู่กับฉากหลังว่า โควตากระทรวงลงตัวหรือไม่