ผู้ช่วย ผบ.ตร.เตรียมกำลัง-ความพร้อมรับ 'ทักษิณ' กลับไทย ไม่กังวล ไร้มือที่ 3
ผู้ช่วย ผบ.ตร.ยันเตรียมกำลัง-ความพร้อมรับ 'ทักษิณ' กลับไทยตามปกติ ไม่กังวลใจ ยังไม่มีการข่าวมือที่สาม อยู่ระหว่างประเมินกลุ่มมวลชนรอรับ พร้อมจัดกำลังโดยรอบ เผยพื้นที่ภายในสนามบิน การท่าอากาศยานเตรียมความพร้อมไว้แล้ว
กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ส.ค. 2566 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยในเวลา 09.00 น. นั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมรับตัวนายทักษิณกลับมาดำเนินคดี ภายหลังจากการประชุมแจ้งทุกหน่วยงาน ก็ไม่มีความกังวลใจ อีกทั้งยังไม่มีการข่าวเรื่องมือที่สามแต่อย่างใด ทั้งนี้ในส่วนของการเตรียมความพร้อม ถือเป็นการปฏิบัติตามปกติ ยังไม่มีการซักซ้อมเพื่อเตรียมรับตัวแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องที่อาจจะมีประชาชนเตรียมารอรับนายทักษิณนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประเมินว่าจะมีมวลชนมารอรับมากน้อยเพียงใด แต่ก็มีการเตรียมความพร้อมเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ไว้แล้วโดยรอบ ส่วนภายในอาคารสนามบิน ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด เป็นการจัดการของการท่าอากาศยานที่มีการเตรียมความพร้อมในส่วนนี้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้มีการเรียกประชุมเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัย โดยยังคงใช้วิธีการเดิมที่เคยประชุมไว้เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการเตรียมแผนวางกำลังรักษาความปลอดภัย และเส้นทางการเดินทางทั้งเส้นทางหลัก และเส้นทางรอง โดยผู้รับผิดชอบในบก. และสน.ร่วมกับตำรวจ 191/บก.สส./บก.จร.และบช.ส. เพิื่อป้องกันเหตุในการควบคุมตัวนายทักษิณไปดำเนินคดี
หากอยู่ในเวลาราชการจะรับตัวและส่งศาลฎีกาได้ทันที แต่ถ้าหากนอกเวลาราชการ จะส่งตัวไปยังสถานคุมตัวพิเศษ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีก่อนจะย้ายตัวไปศาลฎีกาในเวลาราชการ และสุดท้ายนำตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
โดยมีการกำหนดเส้นทางการเดินทาง ทั้งในเส้นทางหลักและเส้นทางรอง โดยเส้นทางหลักจากสนามบินดอนเมือง มายังศาลฎีกา (สนามหลวง ) และยังมีการเตรียมและเส้นทางหลักและรอง หากมีการลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ มายังศาลฎีกา (สนามหลวง)
นอกจากนี้ยังมีการเตรียมเส้นทาง หลัก และรอง หากจะต้องมีการควบคุมตัวในสถานที่ควบคุมพิเศษ บช.ปส. โดยเป็นเส้นทางจากสนามบินดอนมืองมายัง บช.ปส. และจากบช.ปส.มายังศาลฎีกา (สนามหลวง) และสุดท้ายจากศาลฎีกา(สนามหลวง)มายังเรือนจำพิเศษกทม.
ในการทำงานของตำรวจจะต้องวางกำลังรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร และต้องบริหารจัดการพื้นที่ ในแต่ละสถานที่ ทั้งในสนามบินสุวรรณภูมิ,สนามบินดอนเมือง ,บช.ปส.และศาลฎีกา
สำหรับรูปแบบการจัดขบวนรถการรักษาความปลอดภัยนั้นอยู่ในการดูแลของ บก.จร. และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191(บก.สปพ.)ส่วนกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) รับผิดชอบบริเวณพื้นที่รอบสนามบินดอนเมือง และชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบการสืบสวนหาข่าวพื้นที่ ป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้น
รวมถึงจุดที่ผ่านในพื้นที่ศาลฎีกา ความรับผิดชอบของกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (บก.น.6) มีการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อไม่ให้การจราจรติดขัดบริเวณดังกล่าวทุกจุดที่มีการควบคุมตัวผ่าน
ในส่วนความผิดชอบของตม.2 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ดูแลในส่วนของท่าอากาศยานดอนเมืองนั้น ก่อนหน้านี้ได้มีการวางแนวทางร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลไว้แล้ว เบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง คือ เมื่อนายทักษิณเดินทางเข้าประเทศ ก็จะมีการตรวจสอบหนังสือเดินทางในระบบ ตามขั้นตอนของการเดินทางเข้าเมือง และหากพบว่ามีหมายจับ หรือ เป็นผู้ต้องโทษในคดี ก็จะมีการควบคุมตัวไว้ เพื่อรอส่งตัวให้ทางตำรวจนครบาลไปดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งทั้งหมด เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนตามปกติ