73 ปี 'ทหารเสือนวมินทราชินี' จุดเริ่ม 'ประยุทธ์' นายกฯหมดวาระ

21 สิงหาคม 2566 เป็นวันสถาปนากรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์(ร.21 รอ.)ค่ายนวมินทราชินี ครบ 73 ปี 

ซึ่ง 9 ปีก่อน เป็นสัปดาห์เดียวกัน ที่ประชุมสภานิติบัญญัติ(สนช.) มีมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ของประเทศไทย หลังรัฐประหาร

และบังเอิญว่าสัปดาห์นี้  ประธานสภาฯนัดประชุมสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร (สส.)และ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โหวตเลือกนายกฯ ซึ่งยังต้องลุ้นกันว่าประเทศไทยจะได้นายกฯคนที่ 30 ในวันที่ 22 สิงหาคม หรือไม่ 

ขณะที่วันครบรอบสถาปนา ร.21 รอ. พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน น่าเสียดายว่าสื่อมวลชนไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ โดยมีการแจ้งงดทำข่าว แต่คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะเป็นการกลับถิ่นเดิมในตำแหน่งนายกฯครั้งสุดท้ายก่อนครบวาระ

ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่ได้พบกับลูกน้องเก่าที่เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ในสมรภูมิเขาพนมปะ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ขับไล่ทหารเวียดนามรุกล้ำอธิปไตยของไทย เมื่อครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ รับราชการครั้งแรกที่ ร. 21 รอ. ตำแหน่ง ผบ.กองร้อยอาวุธเบา ประจำ ร.21 พัน 2 รอ. จนได้รับ พระราชทานเหรียญรามมาลาเข็มกล้ากลางสมร

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ร. 21 รอ. เป็นหน่วยทหารที่มีบทบาทสำคัญ และถูกจับตามาตลอด นับตั้งแต่การก้าวขึ้นมากุมอำนาจในกองทัพ ตั้งแต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตามมาด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังก้าวขึ้นเป็นนายกฯ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นนายกฯคนแรกที่มาจาก "ทหารเสือนวมินทราชินี" แล้ว ยังมีอดีตนายทหารในหน่วยที่เข้ารับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต รมช.กลาโหม ในรัฐบาล ครม.ประยุทธ์ 4 

โดยทั้งหมดต่างเคยดำรงแหน่งผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ มาแล้ว ตลอดจน พล.อ.ประวิตร  ก็เคยอยู่ในกรมนี้ ก่อนจะไปเติบโตในตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.)

สถานการณ์ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมือง พร้อมนับถอยหลังลงจากเก้าอี้นายกฯ เช่นเดียวกับ พล.อ.อนุพงษ์ ส่วน พล.อ.ประวิตร ยังจำเป็นต้องโลดเล่นบนถนนสายนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ท่ามกลางกระแสข่าวคอยระวังหลังให้น้อง2 คน

สำหรับ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง  เป็นหน่วยทหารรักษาพระองค์  ขึ้นตรงต่อกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ กองทัพภาคที่ 1 ได้รับพระราชทานสมญานามจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ว่า "ทหารเสือนวมินทราชินี" หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "ทหารเสือราชินี"

ในปี 2524 “พระพันปีหลวง” ในฐานะองค์ผู้บังคับการพิเศษ ได้มีพระราชเสาวนีย์ให้มีการฝึกหลักสูตรพิเศษทหารเสือ เพื่อให้กำลังพลสามารถปฏิบัติภารกิจได้ทุกรูปแบบ ทั้งภาคพื้นดิน ภาคทะเล การรบในป่า-ภูเขา การปฏิบัติการในเมือง การกระโดดร่ม การขี่บังคับม้า การใช้รถจักรยานยนต์ทางยุทธวิธีฯลฯ จนถึงปัจจุบัน

กำลังพลที่จบหลักสูตร จะได้รับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติทหารเสือจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประดับหน้าอก โดยมีสัญลักษณ์ หัวใจสีม่วง ประดับพระนามาภิไธยย่อ "สก." เสือประคองหัวใจ หมายถึง กำลังพลทหารเสือทุกนายที่เทิดทูนความซื่อสัตย์ สุจริตและจงรักภักดี 

ส่วน ภูเขา-เกลียวคลื่น หมายถึง สถานที่ทุกหนทุกแห่ง ที่ทหารเสือทุกนายพร้อมจะดั้นด้นไปให้ถึงเพื่อรักษาซึ่งความปลอดภัยของชาติ และ องค์พระมหากษัตริย์

นอกจากนี้ ทรงจัดตั้งหน่วยทหารหน่วยหนึ่งขึ้นมาเป็นการส่วนพระองค์ มีภารกิจคือ ถวายอารักขาในขณะเสด็จแปรพระราชฐาน มีนามหน่วยที่เรียกกันว่า "หน่วยทหารเสริมกำลังพิเศษ" หรืออีกนามคือ “ทหารเสือ” ซึ่งได้ทรงรวบรวมนายทหารที่มีประสบการณ์จากการรบ การพัฒนามาเป็นพี่เลี้ยง ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในทุกๆ ด้านให้กับนายทหารรุ่นต่อไป

"พล.อ.ประยุทธ์" ถือเป็นหนึ่งในทหารเสริมกำลังพิเศษ ทำหน้าที่ถวายอารักขา ตามเสด็จฯ "พระพันปีหลวง" ไปทั่วทุกหนแห่งในพื้นที่ทุรกันดาร ห่างไกลความเจริญ ทรงเยี่ยมเยียนราษฎร ให้ความช่วยเหลือทั้งพระราชทานกำลังใจ และทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ราษฎรเลี้ยงตัวเองได้ เช่น งานศิลปาชีพ การรักษาพยาบาลฯ

ร.21 รอ. ค่ายนวมินทราชินี ไม่เพียงแต่เป็นหน่วยที่ผลิตและหล่อหลอมกำลังพลให้มีร่างกายและจิตใจแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ สุจริตและจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ ที่พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ จนได้ขนานนาม "ทหารเสือหัวใจสีม่วง" เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์