ดีลวุ่น คนแดนไกล ชิง รมต. ปิดจ๊อบ แต่ไม่จบ!!!
เหตุผลที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อกระทรวงที่แต่ละพรรค หรือแต่ละคนจะได้นั้น อาจมีเหตุปัจจัยเบื้องหลังคอยควบคุมและกำหนดเกมอยู่ ทั้งเกมกดดันต่อรอง มีด่านโหวตนายกฯ เป็นเดิมพัน ทุกอย่างเลยเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
การเมืองเห็นความชัดขึ้นอีกขั้น เมื่อแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย ควงแขนแกนนำอีก 10 พรรคการเมือง 314 เสียง แถลงจับมือเดินหน้าเข้าสู่อำนาจบริหาร
แม้จะเต็มไปด้วยความอึดอัดของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่รับไม่ได้กับการดึงพรรค 2ลุง เข้าร่วมครั้งนี้ จนเกิดปรากฎการณ์ถอดเสื้อแดง ลานายใหญ่ ทยอยทิ้งเพื่อไทยไปเรื่อยๆ ก็สะท้อนต้นทุนบางแง่มุมที่เพื่อไทยต้องจ่าย
ความชัดเจนอีกเรื่องในการแถลงร่วมจัดตั้งรัฐบาล คือ การแบ่งสมบัติ จัดสรรโควตาที่ลงตัวเป็นที่พอใจกับแต่ละพรรค เช่น ภูมิใจไทย ได้ 4 รมว. และ4 รมช. พลังประชารัฐ 2 รมว. และ 2รมช. รวมไทยสร้างชาติ 2รมว. และ 2รมช. ขณะที่เพื่อไทย จะได้ 8รมว. กับอีก 9 ตำแหน่ง ที่ประกอบด้วย รมช. และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดยยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดกระทรวงไหนอยู่กับพรรคใด
ถึงแม้ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ สัญญาณจากแดนไกล จะมีการพูดกันว่าเคาะจบรายชื่อโผรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย และมีการต่อสายแจ้งข่าวดีเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะในเพื่อไทย แต่ก็ไม่วายมีคนวิ่งล็อบบี้ให้วุ่น จนอาจทำให้ผู้จัดการรัฐบาลแดนไกลไขว้เขวในช่วงทีเด็ดทีขาด
มีบางกระแสข่าวรายงานว่า บิ๊กเนมจากหนึ่งในพรรคลุง เพิ่งบินไปพูดคุยกับคนแดนไกล เพราะยังหวังว่าจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอ กระทรวงหนึ่ง แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า ตำแหน่งนี้เป็นดีลที่นายใหญ่ กับหุ้นส่วนในเพื่อไทย ตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็ตาม แม้โผที่ออกมาก่อนหน้านี้เหมือนจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจว่าบิ๊กเนมคนนี้หมายตาไปที่อีกกระทรวง แต่เป้าจริงไม่ใช่อย่างนั้นอาจเป็นกลยุทธ์สับขาหลอกให้คู่แข่งที่มีชื่อคั่วเก้าอี้ตัวเดียวกันตายใจ
ด้วยสไตล์การบริหารจัดการของคนแดนไกล ที่ต้องเคลียร์ทุกอย่างก่อนถึงไทย ก็รู้ดีว่าต้องเจอเกมเจรจาต่อรอง วิ่งล็อบบี้กันให้วุ่น รอบนี้เลยมีวิธีที่ถูกพูดถึงอยู่พอสมควรว่า บางคนที่นายใหญ่รับปากรับคำไว้แล้วจะได้ตรงนั้นตรงนี้ ก็ยังให้ออฟชั่นเผื่อเหลือเผื่อขาด เผื่อใจมองกระทรวงอื่นไว้บ้าง เพราะถ้าสถานการณ์เปลี่ยน ก็จำเป็นต้องปรับสลับอะไรบางอย่างตามเหมาะสม
ซึ่งเงื่อนไขนี้ ไม่ใช่ทุกคนจะได้เหมือนกันหมด บางคนที่เป็นหุ้นส่วนใกล้ชิดนายใหญ่ ร่วมสู้ศึกกันมา ดีลกันไว้อย่างไร ก็ดีลกันอย่างนั้น ไม่ต้องเผื่อเลือกกระทรวงสำรอง และสำหรับบางคนกระทรวงสำรองที่อาจจำเป็นต้องเผื่อเลือก ก็ไม่ได้ขี้เหร่ไปกว่าเก้าอี้ที่อยากได้เท่าใดนัก
ปรากฎการณ์คู่ขนานที่น่าจะบ่งบอกทิศทางและแนวโน้มได้ดีก็คือ ข้าราชการระดับสูง เช่น ระดับอธิบดีหลายกรมในกระทรวงสำคัญ เดินสายรายงานตัวกับว่าที่นายใหม่กันไปบ้างแล้ว ถึงขนาดว่าระดับปลัดกระทรวงบางคน ก็ยังเก็บทรงไม่อยู่ พยายามใช้คอนเน็กชั่นที่มีเป็นตัวเปิดทางเพื่อหวังได้ไปทำงานรับใช้นายใหม่ ที่ชื่อมาแรงเป็นตัวเต็งติดโผรัฐมนตรี
แต่ข้อสังเกตหนึ่งคือ ชื่อของลุงป้อม ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่ปรากฎชื่อติดโผใดๆ เลยนั้น สาเหตุอาจมาจากเงื่อนไขส่วนตัว เพราะบางกระแสข่าวรายงานว่าความอยากที่จะเป็นรัฐมนตรีไม่มีแล้ว เพราะผ่านงานสำคัญมาหมด จะเหลือแค่ตำแหน่งเดียวคือนายกฯ ถ้าไม่ได้ อย่างอื่นก็ไม่ได้อยากเป็นอะไรทำนองนั้น เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไรเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างล้วนดูเหมือนมีความสัมพันธ์กันอย่างคาดไม่ถึง เหตุผลที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อกระทรวงที่แต่ละพรรค หรือแต่ละคนจะได้นั้น อาจมีเหตุปัจจัยเบื้องหลังคอยควบคุมและกำหนดเกมอยู่ ทั้งเกมกดดันต่อรอง มีด่านโหวตนายกฯ เป็นเดิมพัน ทุกอย่างเลยเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
ดังนั้น เก้าอี้รัฐมนตรี จึงอาจเป็นผลลัพธ์สุดท้าย ที่จะบอกว่าอนาคตรัฐบาลเพื่อไทย จะเป็นรูปเป็นร่างและขับเคลื่อนอย่างไร กว่าที่อะไรจะชัด เผลอๆ ต้องรอจนนาทีสุดท้าย