‘จตุพร’เผยยุทธการฟ้าใสส่ง‘ทักษิณ’นอนรพ.ตำรวจ-คาดส่งต่อรพ.เอกชน

‘จตุพร’เผยยุทธการฟ้าใสส่ง‘ทักษิณ’นอนรพ.ตำรวจ-คาดส่งต่อรพ.เอกชน

‘จตุพร’เผยยุทธการฟ้าใสส่ง‘ทักษิณ’นอนรพ.ตำรวจ-คาดส่งต่อรพ.เอกชน อ้างความเชี่ยวชาญแพทย์ ชี้พาอารมณ์ของสังคมพลุ่งพล่าน ขอตรวจสอบให้กระจ่าง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้วิเคราะห์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลกลางดึก ในการจัดรายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "น่ายินดี?" ผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2566 โดยนายจตุพร กล่าวว่า ตอนนี้เกิดความสงสัยว่า เรือนจำนำตัวออกนอกเรือนจำในเวลาใดกันแน่ เพราะบางข่าวรายงานเวลา 4 ทุ่ม และบางส่วนบอกเวลาตีหนึ่ง ซึ่งต้องตรวจสอบจากภาพถ่ายของเรือนจำกัน อีกอย่างอาการป่วยถึงขั้นต้องไป รพ.ตำรวจ หรือไม่ ถ้าเจ็บป่วยจริง กระบวนการรักษาจะว่าอย่างไร

“ตลอดช่วงทักษิณ เดินทางกลับมาไทยนั้น ได้มีการโพสต์ไปตรวจร่างกายเป็นระยะ ถ้าป่วยจริงถึง 4 โรคใหญ่ ไม่ว่าโรคหัวใจ ปอด ความดัน และหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท บรรดาญาติพี่น้อง หรือคนในครอบครัวต้องห้ามกลับ เพราะการเข้าอยู่ในเรือนจำสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตอย่างยิ่ง”
 

นายจตุพร กล่าวต่อว่า หากยังจำที่เคยพูดถึงยุทธการฟ้าใสกันได้แล้ว เหตุการณ์ของทักษิณกลับไทยเข้าตามปฏิบัติการเลย เพราะตามยุทธการนี้ โดยจะแสดงถึงทุกอย่างดีไปหมด และให้ได้ทุกสิ่งอย่างตามต้องการ โดยสังเกตจาก ถ้าเป็นนักโทษเด็ดขาดต้องถูกคุมขังในเรือนจำแดนแรกรับตัว แต่นักโทษใหม่อย่างทักษิณ กลับได้เริ่มติดคุกที่อาคารพยาบาล แดน 7 ซึ่งปรับปรุงห้องใหม่ให้กว้างขวางไว้รองรับ

“ปฏิบัติการของยุทธการฟ้าใสได้สำแดงเดชอย่างสำคัญที่สุด ด้วยเริ่มจากติดคุกไป รพ.ตำรวจ แล้วจะไปรพ.เอกชน จากนั้นอ้างถึงความเชี่ยวชาญของหมอเฉพาะทางเพื่อไปนอน รพ.เอกชน แม้ก่อนหน้านี้มีนักโทษมีชื่อเสียงได้เคยใช้เส้นทางแบบนี้บ้าง แต่ไม่ได้มากมายอะไร ดังนั้น หากมีการตรวจสอบจะยิ่งเพิ่มความน่าสงสัยมากขึ้น”
 

นายจตุพร กล่าวอีกว่า แปลกใจคือก่อนเดินทางกลับไทยของทักษิณ ไม่มีใครได้ยินถึงโรค 4 โรคดังกล่าวเลย หากเป็นโรคเช่นนี้ ต้องมีการห้ามปรามไม่ให้กลับมาติดคุก เพราะอันตราย แต่เมื่อกลับมาเข้าเรือนจำ กรมราชทัณฑ์แถลงข่าวถึง 4 โรคกลุ่มเปราะบางดังกล่าว จากนั้นนายวิษณุ เครืองาม อดีตเคยเป็นรองนายกฯ สมัยทักษิณ เป็นนายกฯ มาตรวจเรือนจำพิเศษ แต่อ้างว่า ไม่ได้เจอทักษิณ 

อีกทั้งเมื่อมีข่าวส่งทักษิณไป รพ.ตำรวจ เพราะความดันขึ้น แน่นหน้าอก หายใจลำบาก นอนไม่หลับ อย่างไรก็ตาม การติดคุกวันแรกและเป็นครั้งแรกคงนอนหลับยากมาก พร้อมกับหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะด้วย โดยต่อให้ได้นอนห้องขังกว้าง นอนคนเดียวก็ตาม

“เมื่อไป รพ.ตำรวจ แล้ว อารมณ์ของสังคมพลุ่งพล่านขึ้น เรียกร้องให้ตรวจสอบอย่างเข้มข้น แล้วมีการแถลงจาก รพ.ตำรวจว่า แอร์เสีย หากเป็นจริงคงต้องซ่อมแอร์หรือย้ายไปห้องอื่นที่แอร์ดี คงไม่ถึงขั้นต้องย้ายไป รพ.เอกชนเลย ทำไมแอร์เสียอยู่ห้องเดียว ไม่สมเหตผลเลย และ รพ.ตำรวจ มีอยู่ห้องเดียวหรืออย่างไรกัน แล้วให้ไปอยู่ห้องแอร์เสียได้อย่างไง จึงเป็นสิ่งที่สังคมเริ่มเกิดความสงสัยกันขึ้น ดังนั้น จึงเข้าตามยุทธการฟ้าใสที่ให้ทุกสิ่งอย่างตามที่อยากได้”

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าป่วยจริงคงไม่ว่ากัน ต้องได้รับการรักษาเป็นเรื่องปกติ แต่กระแสสังคมมาเร็วมาก โดยเทียบกับกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต นักธุรกิจใหญ่ ติดคุกในเรือนจำทองผาภูมิ กาจญนบุรี กรณีเสือดำ จนถูกประณามมาก แต่เขาไปศาลทุกนัด เมื่อถูกตัดสินก็เดินเข้าคุก ซึ่งสังคมไม่สงสัยอะไรเลย ไม่ตามไปตรวจสอบด้วย แต่ทักษิณป่วย กลับถูกเรียกร้องแรงและเร็วมากให้เกิดการตรวจสอบอย่างเข้มข้นขึ้น 

ซึ่งสิ่งสำคัญ ระบุว่า ในยุทธการฟ้าใสนั้น เป็นข้อตกลงที่อยากได้ก็ได้ทั้งนั้น แล้วสังคมเริ่มตรวจสอบมากขึ้นเร็วด้วย เพื่อต้องการให้เกิดความจริงและนักโทษมีสิทธิเท่าเทียมกัน เมื่อป่วยจริงก็ต้องเห็นใจและให้ได้รับการปฏิบัติตามสิทธินักโทษอย่างเท่าเทียมกัน แต่จะถึงขั้นไป รพ.เอกชนหรือไม่

“ถ้าแอร์เสีย แล้วใช้พัดลม ก็ยังให้อยู่รักษาห้องเดิม ถือว่า รพ.ตำรวจ ใจร้ายมาก แล้วคนจะเชื่อหรือไม่ อาจไม่เชื่อก็ได้จึงต้องให้พิสูจน์ แต่ รพ.มาทำเป็นเขตห้วงห้ามอีก ยิ่งทำให้คนสงสัยไปกันใหญ่”