"วันชัย" เชื่อ "รบ.เศรษฐา" ถอดบทเรียนอดีต-ไม่ย่ำรอยทุจริต "นายกฯตระกูลชิน"

นายวันชัย สอนศิริ สว. กล่าวถึงการเตรียมแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 11 ก.ย. โดยเชื่อว่าจะใช้เวลา 2 วัน   เบื้องต้นในกรอบการแถลงนโยบายรัฐบาล สั้น กระชับ และเป็นภาพกว้าง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งนี้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายซักถาม เช่น ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อกรณีของการยกร่างใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญเป็นต้น ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ จะต้องอยู่ครบเทอมให้ได้ ผ่านการตั้งใจทำงานมีผลงานมากและเร็ว เพื่อให้ประชาชนยอมรับ  และเป็นข้อต่อสู้กับฝ่ายค้าน เพราะหากยุบสภาเร็ว ฝ่ายค้านจะเอาไปกินแน่นอน

 

นายวันชัย กล่าวย้ำด้วยว่าในการบริหารงานของรัฐบาลใหม่ จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นหากใครที่ดูภาพยนตร์เรื่องแผลเก่า ขอให้เลิกดู เพราะขณะนี้จะมีภาพยนตร์เรื่องใหม่ คือ มนต์รักสีชมพู หรือ มนต์รักษ์สยาม 2023 เกิดขึ้น โดยปลายปีนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แบบที่สังคมไทยคาดไม่ถึง

“ภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้อำนวยการสร้างจากหลายฝ่ายกก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเป็นความหวังของประชาชน สังคมไทย ตนได้ข้อมูลอยู่บ้าง ขอให้เลิกยึดติดกับเรื่องเก่าๆ และมองไปข้างหน้า เพราะเมื่อนายเศรษฐาเป็นนายกฯ ทำให้ดวงดาว ราหูต้องย้าย ต้องหนี ต้องไป ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงใหญ่ ถือว่ามนต์รักสีชมพูเกิดแล้ว” นายวันชัย กล่าว

เมื่อถามว่าหมดยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้วใช่หรือไม่ นายวันชัย กล่าวว่า “จบไปตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ดังนั้นหากใครยังถามเรื่องปฏิวัติ ถือว่าตกยุค และหากจะปฏิวัติ รัฐประหารได้ แปลว่ารัฐบาลชุดนี้ทำให้เกิด เพราะบริหารประเทศไม่ดี โกงกิน ทุจริตคอร์รัปชั่น และมีความแตกแยกกัน รวมถึงไม่มีผลงาน หากเป็นเช่นนั้นไม่ต้องให้ปฏิวัติ เพราะประชาชนจะลุกไล่เอง”

เมื่อถามถึงพลังของพรรคก้าวไกลและผู้สนับสนุน นายวันชัย กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ไม่ใช่ส่วนของความแตกแยก​ ซึ่งต่างจากคนอายุเท่ากันที่เทาะเลาะ เช่น กลุ่มสีเสื้อ ที่ถือว่าเป็นความแตกแยก  ทั้งนี้พรรคก้าวไกลเป็นเพียงความเห็นต่างระหว่างวัย  และจำเป็นต้องมี หากรัฐบาลทำงานมีผลงานดี ประชาชนยอมรับ ความเห็นดังกล่าวเป็นแค่ความเห็นต่าง แต่ไม่สามารถสร้างความแตกแยกให้เกิดในสังคมได้ ทั้งนี้ตนมั่นใจว่าหากรัฐบาลทำงานดีมีผลงาน และมีนายกฯ คนใหม่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ จะสามารถเปลี่ยนคู่ขัดแย้ง โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลได้ และเปลี่ยนให้เสียงของพรรคก้าวไกลเป็นแค่เสียงไกลๆ เท่านั้น

 

เมื่อถามว่าจากคำแถลงนโยบายรัฐบาล มั่นใจได้อย่างไรว่าการทำงานจะไม่ซ้ำรอยปมปัญหาทุจริตเชิงนโยบาย หรือการบริหารเหมือนสมัยนายทักษิณ ชินวัตร หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ  นายวันชัย กล่าวว่า "บาดเจ็บลึก สาหัส 20 ปี มีคนบาดเจ็บ ล้มตาย ติดคุกและมีคนหนีไปจากประเทศ หากไม่สำนึกไม่เอาบทเรียนในอดีตมาใช้ แปลว่าไม่ต้องผุดต้องเกิด ผมเชื่อว่าความสาหัสนั้นจบแล้ว และไม่มีใครเอาเรื่องในอดีตและบทเรียนในอดีตทำให้เกิดปัญหา เพราะเจ็บทั้งตัว แตกแยกทั้งแผ่นดิน สร้างรอยร้าวลึกให้สังคม ไม่ควรมีอีก เท่าที่ผมทราบเหตุที่เกิดขึ้นในวันที่ 22 ส.ค. คือปฐมบทของการเปลี่ยนแปลงและปัญหาดังกล่าวจะจบไปจากประเทศไทย”

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์นายวันชัย ได้เล่าเรื่องที่ได้สนทนากับสื่อมวลชนอาวุโส เรื่อง หมาเห่าหลังโรงลิเก ที่ระบุว่าเมื่อลิเกขึ้นแสดงต้องโยนกระดูกให้หมากินหลังเวที เพื่อไม่ให้ก่อกวน แต่เมื่อลิเกจบการแสดงและย้ายเวทีแล้ว หมายังคิดว่าจะได้กินอาหาร ยังคงอยู่หลังโรงลิเก และคอยเห่า ทั้งที่โรงลิเกย้ายและเปลี่ยนเรื่องไปแล้ว 

 

ทั้งนี้นายวันชัย ระบุว่าตนไม่ได้หมายถึงนักการเมืองฝ่ายใด ที่ยึดติดกับเรื่องเก่าๆ ทั้งนี้ขณะนี้สถานการณ์และเนื้อเรื่องปรับเปลี่ยนไปแล้ว.