3 รมต.“สามมิตร” วินวิน ลับลวงรุก"กระทรวงเกรดเอ"
จับหตาดูความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ“สมศักดิ์”ให้ดี เพราะเป้าหมายไม่หยุดอยู่แค่เก้าอี้รองนายกฯ อย่างแน่นอน เมื่อ“กระทรวงเกรดเอ”ยังเป็นที่หมายของหัวขบวน 3 มิตรในการปรับ ครม.ครั้งต่อไป
กว่า 40 ปีบนถนนทางการเมือง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน อยู่ในสถานะแกนนำสารพัดกลุ่ม เป็น สส.มาแล้ว 10 สมัย เป็นรัฐมนตรี 15 สมัย โดยระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และช่วงที่เป็น สส.ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน
ไม่ต่างจากคู่หู “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ผ่านสมรภูมิการเมืองมากว่า 25 ปี นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีมาหลายสมัย คราวนี้กลับมาคุมกระทรวงคมนาคม คำรบสาม หลังเคยยิ่งใหญ่ในกระทรวงหูกวางมาแล้วในยุครัฐบาลทักษิณ 1 และทักษิณ 2
เช่นเดียวกับ “อนุชา นาคาศัย” น้องคนเล็ก เป็น สส. ชัยนาท หลายสมัย แต่ “อนุชา” เพิ่งสมหวังนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อเนื่องด้วยการนั่งเก้าอี้ รมช.เกษตรและสหกรณ์ รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน
ปี 2557 ในช่วงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. กดดันให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ “สมศักดิ์” กลับเข้าพรรคเพื่อไทย นำทัพ สส. สุโขทัย ลงสมัครเลือกตั้ง แต่ไม่ได้เข้าสภาเพราะเกิดรัฐประหารเสียก่อน
ทว่า การเลือกตั้งปี 2562 “สมศักดิ์-สุริยะ” หอบลูกทีมหนีจากอ้อมอกของ “ทักษิณ ชินวัตร” มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะอ่านการเมืองทั้งกระดาน เล็งเห็นว่า อำนาจทางการเมืองของ “3 ป.” อยู่ในช่วงขาขึ้น หากเอาตัวไปขวางมีโอกาสบาดเจ็บ
ที่สำคัญการมาร่วมงานกับ “3 ป.” อาจมีคดีในชั้น ป.ป.ช.เป็นเงื่อนหลัก และในที่สุด ทั้งคดีฝายแม้วของหลังบ้าน “อนงค์วรรณ เทพสุทิน” และคดีจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัสของ “สุริยะ” ถูก ป.ป.ช. ตีตกทั้งสองคดี
การเลือกตั้งปี 2562 “สมศักดิ์-สุริยะ-สมคิด” ผนึกกลุ่มสามมิตร มาพร้อมมอตโต้ “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ (ฉบับปี 2560) ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” สามารถสานฝัน “3 ป.” ให้อยู่ในอำนาจต่อ ส่ง “ประยุทธ์” นั่งเก้าอี้นายกฯสมัยสอง
ตลอด 4 ปีที่เข้าร่วมรัฐบาล “สมศักดิ์” นั่งรมว.ยุติธรรม “สุริยะ” นั่งรมว.อุตสาหกรรม จนครบวาระ แถมยังส่ง “อนุชา” ขึ้นชั้นรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ “ธนกร วังบุญคงชนะ” เด็กในบ้านสามมิตร ก็ถึงฝั่งฝันบนเก้าอี้รัฐมนตรีเช่นกัน
ก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 “สมศักดิ์-สุริยะ” ถูกจับตามองอย่างมากว่า จะปักหลักอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อ หรือย้ายกลับไปบ้านเก่าที่เพื่อไทย เพราะมีสัญญาณยุทธศาสตร์แตกแบงค์พัน กระจายกลุ่มสามมิตร ทั้งผูกไมตรีกับ “ประยุทธ์” และคืนดีกับ “ทักษิณ”
โดยส่ง “อนุชา-ธนกร” เข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อสานฝัน “ประยุทธ์” อีกครั้ง ส่วน “สมศักดิ์-สุริยะ” เลือกกลับพรรคเพื่อไทย เพื่อพา “ทักษิณ” กลับบ้าน
“สมศักดิ์” ประกาศทันทีที่กลับพรรคเพื่อไทยว่า “วันนี้ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแล้ว” ทำให้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ส่งผลให้หัวขบวนสามมิตรกลับมาพักพิงพรรคเก่า ขณะที่อีกด้าน ก็ตรึงกำลังไว้ข้างกาย “ประยุทธ์” เพราะมองว่า กำลังภายในทางการเมืองแน่นปึ้กกว่า “ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ที่สำคัญศัตรูทางการเมืองของ “สมศักดิ์-สุริยะ” ฝังตัวอยู่ในมูลนิธิป่ารอยต่อ จน“สมศักดิ์” บอกกับคนใกล้ชิดว่า จะไม่ขอกลับเข้าไปเหยียบบ้านป่ารอยต่ออีก
แม้ผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะอยู่เหนือความคาดหมายของ “สมศักดิ์-สุริยะ” เนื่องจากพรรคเพื่อไทยไม่ชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ แถมยังพ่ายแพ้ให้กับพรรคก้าวไกล แต่ท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยกลับได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ “พรรคสองลุง” ทำให้ “กลุ่มสามมิตร” เข้าวินทางการเมืองอีกรอบ
ชื่อของ “สุริยะ” อยู่ในโผเก้าอี้ รมว.คมนาคม แบบนอนมา ด้าน “สมศักดิ์” หวังชิงเก้าอี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาให้ได้ แต่ก็ไม่สมหวัง ถูกคู่แค้นเก่าอย่าง “ธรรมนัส พรหมเผ่า” คว้าไปครอง
ทว่า การขยับขึ้่นมานั่งเก้าอี้รองนายกฯ กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ทำให้ “สมศักดิ์-สุริยะ” กลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง การประสานงานโครงการสำคัญ จะถูกชงเข้าสู่ที่ประชุม ครม.แบบไร้เงื่อนไข
ด้าน “อนุชา” แม้จะไม่มีพวกมากนักในพรรครวมไทยสร้างชาติ มองตามรูปเกมแล้วอาจจะยากที่จะแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรีกับ “สุชาติ ชมกลิ่น” แต่ตลอดเวลาการจัดตั้งรัฐบาล “อนุชา” เลือกนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ตรงกันข้ามกับ “สุชาติ” ที่เดินเกมต่อรอง โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของพรรค
เมื่อ “บิ๊กเนม รทสช.” ต้องเลือกใครคนใดคนหนึ่ง ขึ้นมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรี จึงไว้วางใจ “อนุชา” มากกว่า “สุชาติ” ซึ่งโดนคาดโทษทางการเมือง
การคว้าเก้าอี้รัฐมนตรีมาได้ 3 ที่นั่ง ทั้งที่อยู่กันคนละพรรค ทำให้ “กลุ่มสามมิตร” ที่แตกตัวกันออกมา เป็นกลุ่มการเมืองที่เข้าวินมากที่สุด
ต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ“สมศักดิ์”ให้ดี เพราะเป้าหมายไม่หยุดอยู่แค่เก้าอี้รองนายกฯ อย่างแน่นอน เมื่อ“กระทรวงเกรดเอ”ยังเป็นที่หมายของหัวขบวน 3 มิตรในการปรับ ครม.ครั้งต่อไป