"ชวน" ขอ "รบ." ชดเชยคนใต้ ปมถูกเลือกปฏิบัติ ด้าน "เศรษฐา"ย้ำทำงานเพื่อทุกคน
"ชวน" เชื่อ "เศรษฐา" มีคุณสมบัตินั่งนายกฯ แนะอย่าโกง พร้อมขอให้ทบทวน ชดเชยให้ คนใต้ หลังถูกเลือกปฏิบัติมานาน จับตานโยบายดับไฟใต้ ด้าน "เศรษฐา" ย้ำความตั้งใจทำงานเพื่อคนไทยทุกคน
นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรประชาธิปัตย์ อภิปรายต่อที่ประชุมรัฐสภา วาระอภิปรายนโยบายรัฐบาล ว่า กล่าวว่า ตนนยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสินนายกฯ เป็นการส่วนตัวแม้ตนไม่โหวตให้ในรัฐสภา เพราะมาจากพรรคที่เลือกปฏิบัติกับประชาชน และที่ผ่านมาได้รณรงค์และต่อสู้ทางการเมืองเพื่อไม่ให้พรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งและได้ผู้แทนในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้นการไม่โหวตให้เพื่อไม่ให้เป็นการหักหลังประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ดียอมรับว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ คนที่ 30 ถูกตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มข้นหากรู้ประวัติทำอะไรไม่ดี เช่นระหว่างเรียนต่างประเทศ เคยทุจริตการสอบ ลักเล็กขโมยน้อย เชื่อว่าไม่มีละเว้น
นายชวน อภิปรายว่า หากพิจารณามาตรฐานของพรรคไทยรักไทย พรรคเพื่อไทยที่เสนอตัวนายกฯ ยอมรับว่านายเศรษฐา คุณสมบัติไม่ด้อยกว่าบุคคลทั้ง 5 คนที่เคยเสนอเป็นนายกฯ หากจะให้เสนอแนะ คือ อย่าล้ำเส้น อย่าทุจริต อย่าหนีออกต่างประเทศ ทำอะไรที่มีปัญหาเมื่อพ้นตำแหน่ง ทั้งนี้ตอนนี้วัดไม่ได้ ว่า นายกฯ มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์หรือไม่ แต่การตรวจสอบความเป็นไปได้ของนโยบายจากผู้ปฏิบัติถือว่าสำคัญ
“ผมขอแนะนำ คือ อย่าโกง ความซื่อสัตย์สุจริต ตามที่ท่านย้ำตอนท้ายว่า จะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม เมื่อนักธุรกิจทำการเมือง ทำให้ได้รับความไว้วางใจน้อยลงไป นักธุรกิจมาทำงานการเมืองไม่แปลก เป็นประโยชน์ แต่อย่าเอาผลประโยชน์ธุรกิจส่วนตัว กระทบกับประโยชน์ส่วนรวม ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี เมื่อได้นายกฯ คนนี้ เพราะเชื่อว่าจะเข้าใจคนที่ถูกเอาเปรียบ คนที่ถูกเลือกปฏิบัติ ทั้งนี้การเลือกปฏิบัตินอกจากขัดหลักประชาธิปไตย เราไม่ควรมองข้ามละเลย ผมเสนอให้ทบทวนเหตุการณ์ตามความเป็นจริง ชดเชยความเสียหายจากการเลือกปฏิบัติ” นายชวน กล่าว
นายชวน อภิปรายด้วยว่า เป็นโอกาสที่ดีที่นายกฯจะใช้วิจารณญาณ ทบทวนชดเชยความเสียหายให้พื้นที่ที่ถูกเลือกปฏิบัติ หลังสุด ตนทำหนังสือและบอกกล่าวด้วยวาจา ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ และรมว.กลาโหม ขอให้ทำถนนสายหนึ่งให้ภาคใต้ และท่านได้หาเสียงในจ.ภูเก็จว่าจะทำถนนคู่กับถนนหมายเลข4 ดังนั้นความชดเชยควรจะเกิด ขอให้นายกฯ ติดตาม ศึกษาความเป็นจริง ไม่ต้องเชื่อตนทั้งหมดและหาทางแก้ไข นอกเหนือจากจะทำในสิ่งที่ดีงามตามคำแถลงว่า ครม. ว่าจะสร้างความสามัคคีปรองดองที่นำไปสู่การพัฒนาประเทศก้าวหน้าเพื่อประโยชน์สุขของคนไทย ทั้งนี้ความสามัคคีปรองดองเกิดได้ต้องเริ่มจากการไม่เลือกปฏิบัติ
นายชวน อภิปรายด้วยว่าตนขอให้ดูเลข คือ 7,520 คือ ตัวเลขของการสูญเสียชีวิตจากความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2547 - 2566 ทั้งนี้นโยบายรัฐบาลไม่มีประเด็นการแกัปัญหาชายแดนภาคใต้ในคำแถลงนโยบาย แต่มีในภาคผนวก คือ เป็นคำในยุทธศาสตร์ชาติที่ลอกมาลงไว้ ความสูญเสีย 1 คนยิ่งใหญ่ จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความสูญเสีย แม้จะย้ำเรื่องหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง ไว้หลายจุดในนโยบายรัฐบาล แต่ไม่มีดีขึ้นหากไม่มีข้อมูลว่าจะแก้ปัญหาพื้นที่ด้วยวิธีใด แม้ปัญหาพื้นที่ภาคใต้จะเกิดขึ้นมานาน แต่การแก้ปัญหานั้นอยู่ที่นโยบายของรัฐบาล
“ผมเชื่อว่านายกฯ ตั้งใจแก้ปัญหา แม้จะประเมินตัวเลขเรื่องลดตัวเลขผู้เสียชีวิตเท่าไร แต่ต้องทำ สิ่งที่แนะนำเมื่อเกิดวิกฤตในพื้นที่ คือน้อมนำพระราชดำรัส ในหลวงรัชกาลที่ 9 คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา หากมุสลิมทำผิดต้องถูกตรวจสอบ ตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ใช้อำนาจรัฐตัดสิน เหมือนในอดีตที่ทำนโยบายที่ผิดพลาด เมื่อ 8 เม.ย. 2544 ทั้งนี้หลังนายกฯ โปรดเกล้า พบว่าตำรวจน้ำดีในปัตตาเสียชีวิต 4 นาย ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องเน้นการพัฒนาพื้นที่และเข้าใจพื้นที่ ผมเชื่อว่าจะคลี่คลายปัญหาได้ ดังนั้นหากยึดมั่นการสุจริจ จะอยู่รอดปลอดภัย ตลอด 4ปี ไม่ติดคุก” นายชวน กล่าว
จากนั้นนายเศรษฐา ชี้แจงทันที ตนขอน้อมรับโอวาทของนายชวนที่พูด ทั้งนี้นายชวนคงไม่รู้จักดีพอ เพราะเรียกชื่อผิดตอนต้น ตนคือ เศรษฐา ไม่ใช่เชษฐา แม้เป็นนักธุรกิจมาก่อน ยืนยันว่า มาอยู่ตรงนี้รักประเทศชาติ ต้องการเห็นประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ตนมาด้วยหัวใจเปิดกว้าง ตั้งใจทำประโยชน์ให้ประเทศ ผมมีความรู้นิดเดียวกับปัญหาภาคใต้ ซึ่งการสูญเสียหนึ่งคนไม่ควรเกิดขึ้น แต่ความเข้าใจอาจต่างกันรวมถึงวิธีการนำปฏิบัติในอนาคค
“รัฐบาลที่มาจากประชาชบน โดยพรรคร่วม 11 พรรค ใหัความสำคัญกับความสงบสุข ของภาคใต้ ไม่น้อยไปกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ได้ลงไปแก้ปัญหาสึนามิ จนได้รับความชื่อชน แม้รัฐบาลนี้จะไม่มี สส.ใต้ ต้องให้ความเป็นธรรม เสมอภาค เท่าเทียมกับคนไทยทุกคน” นายเศรษฐา ชี้แจง