ร้อง กกต.สอบ 'สมชัย' เคยโดนคำสั่ง คสช.ส่อขาดคุณสมบัติสมัคร สส.หรือไม่
'เด็จพี่' บุกร้อง กกต.บี้สอบ 'สมชัย' เหตุเคยโดนคำสั่ง คสช.สั่งปลดพ้นเก้าอี้ ส่อขาดคุณสมบัติลงสมัคร สส.หรือไม่ ยันทำแบบนี้ไม่ได้ปิดปาก แขวะเร่ร่อนไร้จุดยืน
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2566 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือต่อประธาน กกต. เพื่อขอให้มีการตรวจสอบนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.เพราะทราบความปรากฏว่า นายสมชัยถูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 4/2561 วันที่ 20 มี.ค. 2561 ให้พ้นจากตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทำให้มีผลเสียต่อการทำหน้าที่กกต.และ เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเพราะเป็นกกต.แต่ไปลงสมัครเลขาฯ กกต. โดยไม่ลาออก ทำให้คสช.มีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง
นายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า เมื่อความปรากฏอย่างนี้ตนจึงนำเรื่องนี้มาตรวจสอบ ก็พบว่าเมื่อพ้นจากตำแหน่งเมื่อปี 2561 แล้วปี 2562 ก็ไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และลงเลือกตั้งสส.เขต สมุทรสาคร แต่แพ้เลือกตั้ง ต่อมาในปะ 2566 ก็มาสังกัดพรรคแสรีรวมไทย ลงสมัครสส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 6 ดังนั้นเข้าข่ายว่าคนที่พ้นจากตำแหน่งตามคำสั่งคสช. แล้วยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ เช่น การร้องทุกข์ หรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไร ซึ่งคำสั่งคสช.นั้นถือว่าเทียบเท่าพระราชบัญญัติ เพราะฉะนั้นตนมองว่านายสมชัยจึงไม่น่าจะสามารถไปสมัครได้
“รู้อยู่แล้ว เป็น กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติคนอื่น ผมมองว่านี่จะตายน้ำตื้นหรือปเปล่า หมองูตายเพราะงูหรือเปล่า เพราะมาตรา 98 (8) ของรัฐธรรมนูญ ห้ามบุคคลที่ถูกพ้นราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ รับตำแหน่งไม่ได้ ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้ง อีกทั้งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 42 ก็ห้ามเหมือนกัน โทษสูง ถ้ารู้แล้วยังทำ เหมือนกรณีล่าสุดการเลือกตั้งสส.เขต 3 ระยอง สมาชิกพรรคก้าวไกล มีคนรู้แล้วไปร้องจนต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ดีที่นายสมชัยไม่ชนะ ถ้าชนะก็เชื่อว่ามีคนร้อง ดังนั้นเมื่อผมรู้แล้ว และในฐานะประชาชน เห็นว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้เป็นบรรทัดฐาน หากผิดกฎหมายจริง ก็ผิดมาตรา 151 จำคุก 10 ปี ตัดสิทธิทางการเมือง 20 ปี ปรับ 2 หมื่น ถึง 2 แสนบาท วันนี้ยังไม่กล่าวหา แต่ขอให้กกต.ตรวจสอบ” นายพร้อมพงษ์ กล่าว
นายพร้อมพงษ์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 22 ก.ย. เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษในกรณีนี้ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพราะโทษสูงเป็นทั้งคดีอาญาหากมีความผิด จึงให้หน่วยงานตรวจสอบทั้งในชั้น กกต. หรือพนักงานสอบสวน เพราะเรื่องนี้เราเป็นพลเมืองดี เห็นว่าการกระทำของนายสมชัย แล้วอนาคตไปลงสมัคร สส.พรรคการเมืองอื่น ๆ หรือไปสมัครทำงานองค์กรอิสระ หรือหน่วยงานใด ถ้าคนให้พ้นจากตำแหน่งแล้วยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง มองว่าไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ นายสมชัยตรวจสอบคนอื่น น่าจะมีความซื่อสัตย์สุจริต และมีจริยธรรม ถ้าตัวเองเป็น กกต.แล้วบอกว่าไม่รู้กฎหมาย ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ตนได้ช่วยตรวจสอบนายสมชัยด้วยความสมัครใจ ไม่มีโกรธแค้นเคือง
เมื่อถามว่า รัฐบาลมีแนวคิดยกเลิกคำสั่ง คสช. จะทำให้คำสั่งให้นายสมชัยพ้นจากตำแหน่งนั้นถูกล้มล้างไปด้วยหรือไม่ นายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ แต่ต้องดูว่าคำสั่งนั้น เป็นคำสั่งเฉพาะหรือไม่ เพราะ คสช.ออกคำสั่งมาร้อยกว่าฉบับ ซึ่งมีศักดิ์เทียบเท่าพระราชบัญญัติ กฎหมายต้องยกเลิกโดยสภา เมื่อคำสั่ง คสช.ให้นายสมชัยพ้นจาก กกต.ขณะนั้น เมื่อคำสั่งยังคงอยู่นายสมชัยก็น่าจะขาดคุณสมบัติ หากในอนาคตรัฐบาลยกเลิกก็อาจจะเป็นไปได้ หรือนายสมชัย อาจจะไปร้องต่อหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ตามกระบวนการยุติธรรม เช่นเดียวกับกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ขณะนั้น ที่ถูกกล่าวหาและคสช.ออกคำสั่งยกเลิก จนวันนี้สามรถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้ ดังนั้นต้องยกเลิกคำสั่ง คสช.ก่อน ถ้ายังไม่ยกเลิก ตนว่านายสมชัยน่าจะมีมีสิทธิ์ และผิดรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบ และกฎหมายอาญา อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับคำสั่ง คสช.ทุกฉบับ แต่เห็นด้วยกับคำสั่งปลดนายสมชัยออกจาก กกต.
เมื่อถามว่า การมาร้อง กกต.ไม่ใช่การปรามนายสมชัยที่มาวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษานายกฯ นายพร้อมพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการปราม แต่เพราะนายสมชัยทำหน้าที่ตรวจคนอื่น ก็ต้องยอมรับการตรวจสอบได้ หากจะตรวจสอบคนอื่นว่า ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ยุตธรรม ตัวเองก็ต้องบริสุทธิ์ด้วยไม่มีมลทินมัวหมอง คนอื่นก็สามารถตรวจสอบได้ เป็นเรื่องธรรมดา ตนก็ตรวจสอบมา 20 ปี แล้ว เป็นทั้งผู้แทนราษฎร แม่นพอสมควร ขณะที่นายสมชัยเคยเป็นแต่กกต. แต่กกต.จบรัฐศาสตร์ ไม่ได้จบกฎหมาย หากจบกฎหมายต้องรู้ ถ้ามีที่ปรึกษากฎหมายดีๆ ก็ต้องรู้ว่าทำไม่ได้ แถมทำต่อเนื่อง ย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การตรวจสอบแบบปรามแบบปิดปาก ใครจะปิดปากนายสมชัยได้ ดังนั้นเมื่อตนมีข้อกังขาก็ตรวจสอบแค่นี้เอง
“ผมก็ต่อสู้เรื่องระบบยุติธรรมสองมาตรฐาน เรื่องอุดมการณ์มาเยอะ ติดคุกจริง ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี จริง แต่สุดท้ายผมก็ไม่หนีไปไหน ไม่ย้ายข้าง เหมือนคุณสมชัย พอพ้นจากกกต.ก็ไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง พอแพ้การเลือกตั้ง ก็ไปอยู่กับเสรีรวมไทย เป็นว่าผมไม่มีลักษณะเหมือนคนเร่ร่อนหรอก อุดมการณ์ของผมอยู่ตรงนี้ตลอด เป็น FC เพื่อไทย FC ฝ่ายประชาธิปไตย ไม่มีตำแหน่ง แต่มาสร้างตำนาน เป็นตำนานที่ต้องตรวจสอบ คนที่น่าจะมีพฤติกรรม มีวาระซ่อนเร้น เอาเป็นว่า จุดยืนให้นิ่ง ผมมองว่าจุดยืนคุณสมชัยไม่นิ่ง ผมจึงต้องตรวจสอบ” นายพร้อมพงษ์ กล่าว