ถกปธ.กมธ. ส่อบานปลาย "รทสช.-ก.ก." ยื้อ-แย่งแบ่งเค้ก 1 เก้าอี้
"รทสช." พกมติพรรค เจรจาแบ่งโควตาประธานกมธ. ค้านถูกแบ่ง เพื่อยกให้ "ก้าวไกล" หลังได้ กมธ. เพิ่มอีก1คณะ ส่อมีความขัดแย้งไม่จบ จนท. เตรียมจับสลาก พบมี กมธ.ที่พรรคการเมืองไม่เลือกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมตัวแทนพรรคการเมือง เพื่อจัดสรรโควตาประธานกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ จำนวน 35 คณะ เป็นรอบที่ 3 ซึ่งนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่สอง นัดประชุมโดยคาดหมายว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าววันนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนัดประชุมตัวแทนพรรคการเมืองดังกล่าวพบว่าได้ย้ายห้องประชุม จากเดิมที่ใช้ห้องประชุมชั้น4 ทางด้านทิศใต้ เป็นทางด้านทิศเหนือแทน ขณะที่ตัวแทนของพรรคการเมืองต่างๆ ตบเท้าเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า ตนได้รับมติของพรรคให้มาเจรจากับที่ประชุมถึงสัดส่วนประธานกมธ. ที่พรรคได้รับ จากกรณีที่พบว่าสัดส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติต้องลดจำนวน 1 ที่นั่ง จากเดิมได้ 2 คณะ เนื่องจาก จำนวน สส.ของพรรคก้าวไกล ได้เพิ่มมากขึ้น จากการเลือกตั้งสส.แทนตำแหน่งที่ว่าง ในจ.ระยอง แต่ตนมองว่าต้องยึดคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหมายความว่านายพิธาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯได้ ดังนั้นโควตาประธานกมธ.จึงจำเป็นต้องยึดตามจำนวน สส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งมีกรณีที่เกิดขึ้นในอดีตเทียบเคียง
“ผมคิดว่าจะได้ข้อสรุปอย่างไร ขึ้นอยู่กับการเจรจา ที่มีการรอมชอมกัน แต่ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติขอเจรจา และมองว่าการพูดคุยจะเป็นทางออก ขณะเดียวกันการจัดสรรโควตาประธานกมธ.นั้น ทราบว่ามีกมธ.ที่ซ้ำกัน 7 คณะ หากตกลงกันได้ ก็จบหากตกลงไม่ได้ ต้องใช้วิธีจับสลาก หรือใช้เสียงโหวตในที่ประชุมกมธ. เพื่อสัปดาห์หน้าจะได้ตั้งกมธ.ได้และลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน” นายอัครเดช กล่าว
อย่างไรก็ดีในประเด็นของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ได้รับการโต้แย้ง หลังจากที่เข้าสู่การประชุม นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน หารือให้ปรับสัดส่วนโควตาประธานกมธ. ที่จัดสรรให้พรรคการเมือง หลังจากการประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา ได้รับรองสถานะของนายพิธา ที่นำเป็นจำนวนที่คำนวณเพื่อหาจำนวนประธานกมธ.ที่จัดสรรให้พรรคการเมือง ขณะเดียวกันนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และรายงานตัวต่อสภาฯ แล้ว ดังนั้นขอยืนยันว่าโควตาประธานกมธ.ของพรรคก้าวไกลต้องได้เป็นจำนวน 11 คณะ
ทั้งนี้ก่อนเรื่องดังกล่าวจะยุติ นายพิเชษฐ์ที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้ขอให้สื่อมวลชนที่เข้าสังเกตการณ์ในห้องประชุมออกนอกห้องประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงที่สื่อมวลชนได้เข้าไปสังเกตการณ์นั้น พบว่ามี สส.ได้แสดงความเห็นและหารือ โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนมองว่าพรรคการเมืองควรถอยคนละก้าว ไม่ใช่จะได้อย่างใจไปทั้งหมด ซึ่งพรรคเพื่อไทยที่ได้โควตา 10 กมธ. แต่ถอยให้แล้ว จำนวน 8 คณะ มีแค่ 2 คณะที่ถอยให้ไม่ได้ ดังนั้นขอให้พรรคการเมืองถอยกันบ้างเพื่อให้การเดินหน้าตั้งกมธ.ทำได้แล้วเสร็จ
ทางด้านนายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน เสนอความเห็นและเป็นทางเลือกใหม่ต่อที่ประชุมว่า เพื่อความเป็นประชาธิปไตยและสมศักดิ์ศรีพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้ง ควรจัดสรรโควตาประธานกมธ. ให้ทุกพรรคการเมือง พรรคละ 1 กมธ. ทำให้นายพิเชษฐ์ ร้องขอให้หยุดการหารือเพราะอยู่นอกกประเด็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมดังกล่าวพบว่าเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมกล่องจับสลาก 2 กล่อง ซึ่งที่บรรจุรายชื่อ กมธ.สามัญที่เลือกซ้ำกัน และ รายชื่อกมธ.ที่ยังไม่มีพรรคการเมืองใดเลือก บรรจุอยู่ในภาชนะทึบแสง เพื่อเตรียมไว้หากกรณีที่ต้องใช้การจับสลาก
ขณะเดียวกันในความเห็นของตัวแทนพรรคการเมืองต่อการจับสลากนั้น เบื้องต้นพบว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์
ทางด้านนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า โควตาประธานกมธ.ที่พรรคก้าวไกลได้เพิ่มอีก 1 คณะ หากได้เพิ่ม อาจจะจัดสรรให้กับพรรคไทยสร้างไทย เพราะมี สส.6 คน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมผ่านไปเพียง 30 นาที ที่ประชุมได้สั่งพักการประชุมเพื่อให้ ทุกพรรคไปพูดคุยตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนแล้วกลับเข้าที่ประชุมอีกครั้งเนื่องจากเหลือเหลืออยู่ 3 คณะที่ยังตกลงกันไม่ได้
อย่างไรก็ตามนะในที่ประชุมได้มีการถกเถียงเรื่องเรื่องจำนวน สส.ของพรรคก้าวไกลที่ได้เพิ่มจากระยองทำให้พรรคก้าวไกลจะได้กมธ.เพิ่มมา 1 คณะ และพรรครวมไทยสร้างชาติลดลงไปเหลือ2 คณะ
แต่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หยิบยกกรณีของนายพิธา ที่ถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่สส.ว่าไม่ควรนำมารวมด้วย แต่ฝ่ายกฎหมายยืนยันว่าแม้นายพิธาจะหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่ยังเป็นสส.อยู่จึงสามารถนำมาคิดคำนวณกมธ.ได้ แต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงทำให้พรรคก้าวไกลได้กมธ. 11 คณะ รวมไทยสร้างชาติได้กมธ.2 คณะ