"สมชาย"​ ค้าน "เศรษฐา"​ จ่อตั้ง "ทักษิณ" นั่งที่ปรึกษาหวั่นกระทบความเชื่อมั่น

นายสมชาย แสวงการ สว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่าจะเชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษา หลังพ้นโทษแล้ว ว่าไม่มีความจำเป็น เพราะมีอดีตนายกฯ หลายคน ที่ควรพบและขอคำปรึกษาได้ เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นายชวน หลีกภัย, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,นายอานันท์ ปันยารชุน แม้กระทั่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดังนั้นควรให้นายทักษิณ อยู่นอกตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้จะดีกว่า เพราะหากได้รับตำแหน่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมได้

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า แม้นายทักษิณจะเคยเป็นอดีตนายกฯ เป็นผู้ที่มีคุณงามความดี แต่ก็มีคดีที่ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 คดี ดังนั้นคิดว่าเพื่อให้เกิดหลักนิติธรรม และความปรองดองสมานฉันท์ ควรพิจารณาเรื่องนี้ควบคู่กันไป และนายทักษิณก็ควรเข้าสู่ระบบยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา 

นายสมชาย กล่าวต่อว่าวันที่  25 ก.ย.66 เวลา 13.00 น.กมธ.ฯ จะนัดประชุมโดยเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการราชทัณฑสถาน โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรฐานการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ก้าวล่วงอาการป่วยของนายทักษิณ

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า หากนายทักษิณจะเป็นต้นแบบในการปรองดอง ตนคิดมองว่ารัฐบาลควรหยุดคดีความเรื่องของความขัดแย้งในอดีตหลังรัฐธรรมนูญปี 40  ทั้งการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรในปี 47-48  คดีการชุมนุมของกลุ่ม นปก.และนปช. คดีปิดสนามบิน คดีเผาศาลากลาง และคดีอื่นๆ ถ้าที่พบความเสียหายด้านทรัพย์สิน

"สิ่งเหล่านี้น่าได้รับการเข้ามาอยู่ในคณะกรรมการปรองดองที่พิจารณาออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นิรโทษกรรม ให้กับกลุ่มต่างๆ ที่มีความขัดแย้งทางการเมือง เว้นแต่คดีมาตรา112 ซึ่งบุคคลที่จะได้รับอภัยโทษ อาจต้องได้รับพระมหากรุณาธิคุณเอง และต้องสำนึกผิดเอง คิดว่าเป็นเรื่องที่นายเศรษฐา  ควรเร่งดำเนินการ  แต่หากปล่อยนายทักษิณออกมาก่อน 1 ปี แล้วคนอื่นๆ ยังติดคดี คิดว่าสังคมอาจจะไม่สงบ อาจเกิดคลื่นใต้น้ำ ไปยังรัฐบาลเศรษฐาได้" นายสมชาย กล่าว.          

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์