'ก้าวไกล' คุย 'ปดิพัทธ์' 28 ก.ย.หาข้อสรุป รองประธานสภาฯ-ผู้นำฝ่ายค้าน
'กรุณพล' เผย 'ก้าวไกล' นัดคุย 'ปดิพัทธ์' 28 ก.ย.นี้ หาข้อสรุปตำแหน่ง 'รองประธานสภาฯ-ผู้นำฝ่ายค้าน' รับเสียดาย แต่หากขับ 'หมออ๋อง' ออก ก็ยอมรับได้
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการประชุม สส.ก้าวไกล ในเรื่องของตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ว่า จะมีการประชุมอีกครั้งร่วมกับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เนื่องจากในครั้งที่แล้วเจ้าตัวยังไม่กลับจากสิงค์โปร์
นายกรุณพล กล่าวว่า แต่ขณะนี้มีมติออกมาชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกลต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ที่จะผลักดันประเด็นต่าง ๆ และขับเคลื่อนสภาฯ รวมถึงตรวจสอบรัฐบาล เพราะฉะนั้นจะมีการพูดคุยกับนายปดิพัทธ์ ว่าเมื่อพรรคมีมติเช่นนี้แล้วนายปดิพัทธ์ยอมรับกับมติของที่ประชุมอย่างไร โดยจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ ส่วนหากนายปดิพัทธ์ ไม่ลาออกจะต้องมีการขับออกหรือไม่ ต้องอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคว่าจะมีมติอย่างไร การพูดคุยยังไม่เริ่มขึ้น
"ยืนยันว่าพรรคก้าวไกล ต้องได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ก่อนที่จะมีการประชุมสมัยหน้า เพราะผู้นำฝ่ายค้านสามารถผลักดันประเด็นที่แหลมคม และทำการตรวจสอบรัฐบาลได้ชัดเจน รวมถึงกรรมาธิการหลายคณะที่เราได้เป็นประธาน จึงมีความกังวลว่าเมื่อมีการตรวจสอบภาครัฐโดยที่ประธานกมธ. ไม่ใช่สัดส่วนของพรรคฝ่ายค้าน อาจมีปัญหาหรือความล่าช้าในการตรวจสอบ การมีตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ย่อมทำให้เราตรวจสอบได้ดียิ่งขึ้น" นายกรุณพล กล่าว
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยหรือไม่ว่า จะรักษาทั้ง 2 ตำแหน่ง นายกรุณพล กล่าวว่า มี แต่ด้วยรัฐธรรมนูญมีข้อกำหนดว่า พรรคที่มีผู้นำฝ่ายค้านไม่สามารถมีตำแหน่งประธานสภาฯ รองประธานสภาฯ หรือรัฐมนตรีได้ ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญ กรรมการบริหารพรรคคงวางแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว ทั้งนี้ หากต้องขับออกจริง ๆ จะมีเหตุผลเพียงพอต่อการชี้แจงต่อประชาชนหรือไม่ ก็อยู่ที่กรรมการบริหารพรรคและนายปดิพัทธ์ ว่าเหตุผลที่จะยังอยู่ หรือจะลาออกจะเป็นอย่างไร เพราะในวันนี้ยังไม่ตัดสินใจได้ว่า นายปดิพัทธ์ จะยังคงอยู่ในตำแหน่ง หรือยินดีที่จะลาออก เพื่อมาร่วมงานกับพรรคก้าวไกลอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า หากนายปดิพัทธ์ ลาออกแล้วตำแหน่งนี้ไปอยู่กับพรรคอื่นจะคุ้มหรือไม่ นายกรุณพล กล่าวว่า ถ้าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เราคงใช้คำว่าคุ้มหรือไม่คุ้มไม่ได้ เพราะเป็นข้อกำหนดที่บังคับอยู่ สุดท้ายเราจำเป็นต้องเลือก 1 ตำแหน่ง หากก้าวไกล มี สส.151 คน จะปล่อยให้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านไปอยู่ในมือของพรรคที่มี สส.หลัก 10 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ถ้าพรรคก้าวไกลพลาดจากการเป็นรัฐบาล ก็ควรจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน