วิจารณ์สุจริต! ยกฟ้อง 'สิระ' หมิ่น 'เสรีพิศุทธ์' ปมสิ่งปลูกสร้างรุกแม่น้ำ
ศาลอาญายกฟ้อง 'สิระ-ชัยยันต์' คดีหมิ่นประมาท 'เสรีพิศุทธ์' ปมกล่าวหาวิพากษ์วิจารณ์มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชี้เป็นการวิจารณ์สุจริต
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2566 ที่ห้องพิจารณา 904 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.951/2564 ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสิระ เจนจาคะ อดีต สส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อดีตประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และนายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ อดีต สส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย อดีต กมธ.การกฎหมายฯ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาท
โจทก์บรรยายฟ้องว่า กรณีเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2564 จำเลยทั้งสองร่วมกันหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ด้วยการให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชนทำนองว่า โจทก์รุกล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะเพื่อก่อสร้างท่าเทียบเรือของบ้านโจทก์ บริเวณบ้านริมน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ย่านต.บางกระบือ บางซื่อ กทม. ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทั้งที่โจทก์ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326,328 ประกอบมาตรา 83 ,86 ด้วย พวกจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว
วันนี้ จำเลยที่ 1-2 และผู้รับมอบฉันทะโจทก์มาศาล โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์แล้ว จากข่าวของแต่ละสำนักมีรายละเอียดแตกต่างกันไปแต่มีทิศทางเดียวกันว่า สิ่งก่อสร้างของโจทก์ล่วงล้ำพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยา แม้จะมีการฟ้องร้องแต่คดียุติไปแล้วก็ตาม แต่ต่อมาก็ยังมีการร้องเรียนเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างดังกล่าวอยู่ ดังนั้นเพื่อคลายข้อสงสัยของประชาชน การกระทำของจำเลยที่ 1-2 จำเลยให้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นต่อสื่อมวลชนเป็นไปด้วยความสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท พิพากษายกฟ้อง
นายสิระ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ 14-15 ที่ศาลยกฟ้องตน วันนี้ก็ขอขอบคุณทางศาลที่ให้ความยุติธรรม วันนี้ศาลก็ให้ความยุติธรรมของการทำงานกรรมาธิการการกฎหมายฯซึ่งมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส่วนตัวพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เองก็เป็นประธาน กรรมาธิการฯ รู้ดีว่าการทำอะไรผิดหรือไม่ผิด ขอกล่าวถึงทนาย ตนใช้ทนายของศาล แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จ้างนายอนันต์ชัย ไชยเดช เป็นทนายความ ก็ให้ประชาชนดูเอาว่าการที่ทนายจะทำคดีชนะหรือแพ้ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ไม่ใช่ชื่อเสียงของทนาย
ส่วนนายชัยยันต์ กล่าวว่า วันนี้มาฟังคำพิพากษาที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฟ้องพวกตนที่ตอนนั้น เป็นกรรมาธิการการกฎหมาย ฯ อ้างว่า เอาเรื่องมาวิจารณ์เป็นการหมิ่นประมาท หลังสืบพยานมา 2-3 นัด ศาลก็ได้พิพากษายกฟ้อง เพราะตนทำโดยเปิดเผยข้อเท็จจริงของการประชุมที่ชาวบ้านมาร้องเรียน ด้วยความเป็นธรรมให้สาธารณะชนรู้ ถือทำในอำนาจหน้าที่ จึงยกฟ้อง ในส่วนตนฐานะ และทนายความทำหน้าที่ที่ปรึกษากฎหมายมา 30 กว่าปี อาจจะเป็นรุ่นพี่ของนายอนันต์ชัย ก็กำลังให้ที่ปรึกษากฎหมายพิจารณาฟ้องกลับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้เป็นเยี่ยงอย่างว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วควรวางตัวให้ถูกต้อง เราจะใช้สิทธิตามกฎหมายของเรา