‘อุ๊งอิ๊ง’ กล่องดวงใจ ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ ลุุย ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ผลงานแจ้งเกิด
“แพทองธาร” เปรียบเสมือนกล่องดวงใจที่ “รัฐบาลเพื่อไทย” ต้องปกป้องไว้อย่างดี ไม่ให้มีแผล แม้แต่เกิดจุดฟกช้ำ ที่สำคัญโปรเจกต์ซอฟต์พาวเวอร์ต้องปัง สร้างชื่อสถานเดียว
ภาพ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เข้าทำเนียบรัฐบาล ร่วมประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ในฐานะรองประธาน โดยมี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ถูกจับจ้องมากเป็นพิเศษ
เพราะ “แพทองธาร” คือตัวแทนของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เชื่อกันว่ายังมีอำนาจเต็มในการคอนโทรลความเป็นไปของพรรคเพื่อไทย คอยวางเกมอยู่เบื้องหลัง ในการเปิดดีลกับ “ขั้วอนุรักษ์นิยม”
แม้ระยะหลัง “แพทองธาร” จะเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจ แต่เมื่อถึงเวลาทีเด็ดทีขาด ว่ากันว่ามักจะเป็น “ทักษิณ” ที่กดปุ่มบัญชาการจากชั้น 14
ต้องยอมรับว่า “แพทองธาร” คือทายาททางการเมืองของ “ทักษิณ” และเป็นคนที่ไว้วางใจมากที่สุด โดยที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า “แพทองธาร” ถูกวางตัวให้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เจ้าตัวปฏิเสธ เนื่องจากไทม์มิ่งทางการเมืองไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องมาแตกหักกับ “ด้อมส้ม-คนรุ่นใหม่”
แถมยังมองการเมืองทะลุว่า “มือที่มองไม่เห็น” ต้องการให้ “แพทองธาร” นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพราะต้องการกันให้เป็น “ตัวประกัน” ทางการเมือง
อย่างไรก็ตามเมื่อทักษิณตัดสินใจส่ง “เศรษฐา” เข้าทำเนียบฯ วางตัว “แพทองธาร” คุมพรรคเพื่อไทย เพื่อรีโนเวทบ้าน ก่อนทำศึกรอบใหม่ ซึ่งต้องขับเคี่ยวกับพรรคก้าวไกลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ยี่ห้อแพทองธาร ได้รับความนิยมในทางการเมือง แตกต่างจากยี่ห้อเศรษฐา ที่แม้จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แต่บทบาทยังไม่โดดเด่นเป็นสง่า
จึงไม่แปลกที่ “ทักษิณ” ต้องวางเกมระยะยาว วางงานซอฟต์พาวเวอร์ให้ “แพทองธาร” ได้สร้างตัวตน สร้างผลงานให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ แต่งตัวรอเวลาที่เหมาะสมนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
โดยซอฟต์พาวเวอร์ในมือ "แพทองธาร" มุ่งเน้นพัฒนาแรงงานผีมือ 11 สาขา ประกอบด้วย อาหาร กีฬา Festival ท่องเที่ยว ดนตรี หนังสือ ภาพยนตร์ เกม ศิลปะ การออกแบบ และแฟชั่น
เป้าหมายระยะสั้น 100 วันแรก (ภายใน 11 ม.ค. 2567) พร้อมให้ประชาชนลงทะเบียน ความสนใจในด้านต่างๆ เปลี่ยนแปลงกฎหมายต่างๆในระดับการสูง ออกพ.ร.ฎ.ส่งเสริมสอดคล้องกับนโยบาย, จัด Winter Festival ครั้งยิ่งใหญ่
ภายใน 6 เดือน (3 เม.ย. 2567) เริ่มกระบวนการบ่มเพาะศักยภาพ ทักษะสร้างสรรค์ เสนอ พ.ร.บ. THACCA สู่เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ จัดงานสงกรานต์ทั้งประเทศ ให้เป็นเทศกาลระดับโลก
ภายใน 1 ปี (3 ต.ค. 2567) บ่มเพาะศักยภาพแรงงาน สร้างแรงงานทักษะสูง สร้างแรงงานสร้างสรรค์ได้อย่างน้อย 1 ล้านคน คาดการณ์ว่า พ.ร.บ. THACCA ผ่านการพิจาราของสภาฯเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา
เป้าหมายต้องการยกระดับทักษะของคนไทย 20 ล้านคน หากสามารถดำเนินนโยบายได้สำเร็จจะมีรายได้เข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาทต่อปี ทั้งยังจะเกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ไทม์ไลน์-เป้าหมายของกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ ถูกขบคิดมาอย่างดี พร้อมคาดหวังว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ เพื่อผลดี-แต้มบวกทางการเมืองจะมาตกที่ตัวของ “แพทองธาร”
แถมยังเผื่อเหลือเผื่อขาดทางการเมือง หากเกิดปัจจัยแทรกซ้อนขึ้นกับ “เศรษฐา” เพราะหลังผ่านช่วงฮันนีมูนทางการเมือง เข้าสู่ช่วงที่ต้องพิสูจน์ผลงาน ความกดดันจะโถมเข้าใส่ ซึ่งไม่มีอะไรการันตีได้ว่าปัจจัยแทรกซ้อนจะส่งผลต่อเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมากน้อยเพียงใด
ในอดีตมีบทเรียนที่เกิดขึ้นจาก สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นายกฯ นอกตระกูลชินวัตรมาแล้ว หากเกิดความขัดแย้งขึ้น ความเห็นหลายอย่างไม่ลงรอย นำไปสู่ความแตกแยก ชื่อของ “แพทองธาร” อาจถูกนำมาใช้เป็นเงื่อนไขให้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
ดังนั้น “แพทองธาร” จึงเปรียบเสมือนกล่องดวงใจที่ “รัฐบาลเพื่อไทย” ต้องปกป้องไว้อย่างดี ไม่ให้มีแผล แม้แต่เกิดจุดฟกช้ำ ที่สำคัญโปรเจกต์ซอฟต์พาวเวอร์ต้องปัง สร้างชื่อสถานเดียว