'ธนาธร' ชี้ กก.ประชามติ รธน.แค่ซื้อเวลา เสียดาย 'ก้าวไกล' ไม่ได้เป็นรัฐบาล
'ธนาธร' ร่วมงานเสวนา 6 ตุลา 19 ลั่นยอมเป็น 'ปีศาจ' เพื่อเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง ชี้ไม่มีใครพอใจสภาพสังคมที่เป็นอยู่ ทำไมจึงต้องลดข้อเรียกร้องของพวกเราให้ไทยเสรี ก้าวหน้า เท่าเทียม เสียดาย 'ก้าวไกล' ไม่ได้เป็นรัฐบาล ชี้ กก.ประชามติ รธน.แค่ซื้อเวลา
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2566 ที่ ม.สวนดุสิต นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมเสวนาวิชาการในหัวข้อ “บทเรียน 6 ตุลา: การเมือง อำนาจ และความเปลี่ยนแปลง” จัดโดยโรงเรียนกฎหมายและการเมือง ม.สวนดุสิต
โดยนายธนาธร เริ่มต้นด้วยการตอบคำถามผู้ร่วมเสวนา ที่เทียบว่าพรรคก้าวไกลเป็นสายล่อฟ้า เป็นปีศาจตัวใหม่ที่อาจทำให้ผู้มีอำนาจหวาดกลัวและทำให้การเมืองไทยวนกลับไปยุค 6 ตุลาอีกครั้ง ว่า หากว่าการเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง ทำให้เรากลายเป็นปีศาจ กลายเป็นสายล่อฟ้า ตนก็ยอมเป็นปีศาจ แต่ขอตั้งคำถามสาเหตุใดการยืนยันในสิ่งที่ถูกต้อง การเรียกร้องประเทศที่ดีกว่านี้ สังคมที่ดีกว่านี้สำหรับคนรุ่นต่อไป จึงทำให้ผู้เรียกร้องความเปลี่ยนแปลงต้องถูกผลักเป็นปีศาจ
นายธนาธร ถามนักศึกษาที่มาร่วมฟังเสวนาว่า ใครคิดว่าอนาคตตนเองสดใส มีงานมีอาชีพมั่นคงรออยู่ในประเทศนี้ ให้ยกมือขึ้น ซึ่งมีนักศึกษายกมือเพียง 2 คน จากผู้ร่วมฟังนับร้อย จากนั้นจึงกล่าวว่า ตนไปถามนิสิตนักศึกษาทุกที่ที่มีโอกาส ได้รับคำตอบแบบเดียวกันทุกครั้ง ในเมื่อประชาชนในปัจจุบันไม่มีใครพอใจในสภาพสังคมที่เป็นอยู่ ทำไมเราจึงต้องลดข้อเรียกร้องของเราในการสร้างประเทศไทยที่เสรี ก้าวหน้า เท่าเทียมกว่านี้ ทำไมเราต้องถูกผลักไสให้เป็นปีศาจ
นายธนาธร เทียบเหตุการณ์ 6 ตุลา กับเหตุสังหารคนเสื้อแดงในปี 2553 กับเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ว่า ในด้านการโหมกระพือความเกลียดชังในสังคมจนกระทั่งการเข่นฆ่าผู้เห็นต่างเป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม เป็นการปกป้องชาติบ้านเมือง ในเหตุการณ์ 6 ตุลา มีกลุ่มนวพล กระทิงแดง ชมรมแม่บ้าน มีบุคคลมีชื่อเสียงอย่างทมยันตี มีวิทยุยานเกราะ หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ โหมกระพือความเกลียดชังต่อนักศึกษา จนการสังหารหมู่กลางเมืองกลายเป็นสิ่งที่ได้รับการยกย่องเชิดชู ไม่ต่างจากการจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ และบรรยากาศเฉลิมฉลองของคนกรุงเทพหลังการสังหารหมู่คนเสื้อแดงในเดือนเมษา-พฤษภา 53
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า การสร้างประเทศที่เป็นประชาธิปไตย คือประเทศที่มีพื้นที่ให้คนเห็นต่าง แม้มีความคิดทางการเมืองไม่ตรงกัน แต่อยู่ร่วมกันในสังคมได้ ซึ่งต้องเริ่มจากการมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย เขียนขึ้นโดยประชาชน และแก้ไขเอาองคาพยพที่ไม่เป็นประชาธิปไตยออกไป น่าเสียดายที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล เพราะพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะเร่งให้มีการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่ให้สมาชิกสภาร่างฯ มาจากการเลือกตั้ง โดยจะมีมติ ครม. ให้ทำประชามติ ภายในการประชุม ครม. นัดแรก แต่รัฐบาลปัจจุบันกลับทำเพียงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาการแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งที่เป็นอำนาจนายกฯ ที่จะสามารถกำหนดให้มีประชามติแก้รัฐธรรมนูญได้เลย ทำให้ตนมองว่าการตั้งคณะกรรมการฯ เป็นเพียงการซื้อเวลาเท่านั้น