'ปานปรีย์'ประสาน รมว.ต่างประเทศอิสราเอลรับคนไทยลอตสอง กลับ 80 คน
'ปานปรีย์'ประสาน รมว.ต่างประเทศอิสราเอลรับคนไทยลอตสอง กลับ 80 คน รับติดต่อคนไทยในอิสราเอลขลุกขลักแจงทูตใช้เกณฑ์บาดเจ็บคัดชุดแรก เผยขอเร่งช่วยคนไทยที่ถูกจับตัว ชี้เงื่อนไขฮามาสไม่กระทบ เหตุไทยไม่เกี่ยวความขัดแย้ง น่าจะถูกปล่อยออกมาทั้งหมด
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการกรณีแรงงานไทยในอิสราเอลขอความช่วยเหลือมายังรัฐบาลไทย แต่บางส่วนยังไม่ได้รับการช่วยเหลือว่า ทางเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ได้พยายามติดต่อแรงงานไทยทุกคนเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากระบบภายในขลุกขลักมาก แต่อย่างไรก็ตาม ได้รับทราบแล้วว่าเวลานี้มีคนแจ้งความประสงค์จะกลับประเทศไทย 3,226 คน แต่ในจำนวนนี้กระจายอยู่ในอิสราเอล ไม่ได้อยู่ที่ฉนวนกาซ่า การเดินทางไปจึงลำบาก
นายปานปรีย์ กล่าวต่อว่า ตนจึงถามไปทางรัฐบาลอิสราเอลจะสามารถพาทุกคนกลับประเทศไทยได้พร้อมกันทั้งหมดได้หรือไม่ เป็นความตั้งใจที่จะพาทุกคนกลับมาให้ได้ เพียงแต่การเดินทางอาจจะยังไม่ปลอดภัย จึงต้องดูให้เกิดความปลอดภัยทุกคน และหากใครที่สามารถเดินทางกลับช่วงนี้ได้ทางรัฐบาลพร้อมสนับสนุน ส่วนกรณีที่มีการขอความช่วยเหลือผ่านสื่อนั้น ไม่ต้องรอให้สถานการณ์นิ่งก่อน เพราะถ้ากลับได้ก็กลับเลย ถ้ารู้สึกว่าอยู่อิสราเอลแล้วไม่สบายใจ ทางรัฐบาลพร้อมที่จะให้เขากลับประเทศไทยทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่า การกลับมาแบบล็อตใหญ่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ชุดแรกจะมาเร็วสุดในวันที่ 12 ต.ค. ประมาณ 15 คน แม้จะดูน้อย แต่เป็นเพราะเครื่องบินมีพื้นที่จำกัด และพยายามจะพาผู้ที่บาดเจ็บกลับมา ทางเอกอัครทูตต้องคัดสรรว่าจะให้ใครเดินทางมาก่อน หลังจากนั้นวันที่ 18 ต.ค. จะเดินทางกลับมาอีก 80 คน และจะทยอยกลับมาอีกเรื่อยๆ ในส่วนของกองทัพอากาศและเครื่องบินพาณิชย์ของไทยพร้อมที่จะบินไป แต่การบินไปจะต้องมีความปลอดภัย ไม่ใช่อยากไปก็ไปได้เลย
เมื่อถามว่า การที่เอกอัครทูตเป็นผู้คัดสรร จะใช้เกณฑ์ใด นายปานปรีย์ กล่าวว่า จะดูว่าใครที่บาดเจ็บ จะรีบนำกลับมารักษาที่ประเทศไทย เพราะที่โรงพยาบาลที่อิสราเอลคงเต็มไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีความเป็นห่วง ซึ่งตนได้รายงานนายกฯ เป็นระยะๆ
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเจรจาให้ปล่อยตัวประกันคนไทย นายปานปรีย์ กล่าวว่า ตนมีโอกาสได้คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล แต่ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เพราะเป็นเรื่องภายใน แต่สามารถบอกได้ว่าทางรัฐบาลอิสราเอลมีความเป็นห่วงและแสดงความเสียใจมายังชาวไทยที่มีคนไทยเสียชีวิต บาดเจ็บ และถูกจับตัว ซึ่งกรณีการถูกจับตัว
"ผมได้บอกรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิสราเอลว่าขอให้ท่านใช้ความพยายามสูงสุดที่จะให้มีการปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับตัวอยู่ให้เร็วที่สุด อีกทั้งยังได้ถามเรื่องจำนวนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และผู้ถูกจับตัวว่า เมื่อไหร่จะยืนยันจำนวนที่แน่นอนได้ ท่านยอมรับว่ายาก เพราะเข้าไปในพื้นที่ไม่ได้ ส่วนตัวเลขที่เราได้ เป็นข้อมูลที่รับมาจากสถานทูต"
เมื่อถามถึงเงื่อนไขของฮามาสที่ได้ยื่นให้รัฐบาลอิสราเอล จะส่งผลต่อคนไทยที่ถูกจับตัวหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ไม่น่ากระทบ เพราะเราไม่ได้มีความขัดแย้งกับทั้งสองฝ่าย เราเป็นคนทำงาน ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะมาทำร้ายคนไทย เพียงแต่ตอนที่ชุลมุนคงไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นใคร จึงจับไปหมด แต่ตนเชื่อว่าเขาน่าจะปล่อยตัวมาทั้งหมด และขอยืนยันว่ารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ยิ่งกว่าเต็มที่ แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน
เมื่อถามถึงกรณีนายกฯ เดินทางไปเยือนบรูไน และมาเลเซีย จะส่งผลกระทบหรือไม่ เพราะทั้งสองประเทศไม่ยอมรับอิสราเอล นายปานปรีย์ กล่าวว่า ไม่มี เพราะความสัมพันธ์กับประเทศในกลุ่มอาเซียนใกล้ชิดกันมาก การไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านหลังเข้ารับตำแหน่งนายกฯจึงเป็นเรื่องปกติ