'ก้าวไกล' ตั้งเรื่องสอบ สส.แชทสยิว เบื้องต้นมีมูล แต่ต้องสอบรอบด้าน
‘ก้าวไกล’ รับกำลังตั้งเรื่องสอบ สส.แชทสยิว หลังโซเชียลแฉส่อคุกคามทางเพศทีมงานอาสาสมัคร เบื้องต้นพบมีมูล ต้องสอบรอบด้าน 2 ฝ่าย ก่อนชง กก.บห.ฟันหรือไม่ ชี้โทษหนักสุดไม่ส่งลง สส.สมัยหน้า-ให้พ้นสมาชิกภาพ
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณสมาชิกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สส.ก้าวไกล รายหนึ่ง มีพฤติการณ์คุกคามทางเพศทีมงานอาสาสมัคร จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้ว่า กำลังตั้งเรื่องสอบสวนกรณีปรากฏตามโลกออนไลน์จริง ๆ ขณะนี้กำลังใช้เวลาดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝาย และนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ทราบเรื่องแล้ว ให้ดำเนินการสอบอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเบื้องต้นพบว่ากรณีดังกล่าวมีมูล จึงตั้งเรื่องสอบมาสักระยะแล้ว แต่ที่ยังสรุปเร็วไม่ได้เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผู้ร้องซึ่งก็ยังทำงานอยู่ภายในพรรค และเป็นเรื่องซับซ้อนละเอียดอ่อนจะต้องสอบถามพยานหลักฐานอย่างครบถ้วนรอบด้าน
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะดำเนินการสอบสวนเสร็จเมื่อไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะพิจารณาข้อเท็จจริงเสร็จเมื่อไร ซึ่งคณะกรรมการวินัยมี 7 ท่านด้วยกัน ซึ่งวันนี้ก็ได้มีการหารือกันและเรียกพยานสอบเพิ่มเติม เราจะดูข้อเท็จจริงพยานหลักฐานให้รอบด้านที่สุด เท่าที่วันนี้พรรคก้าวไกลได้สื่อสารออกไป โดยหากเรื่องนี้จบลงแบบใดอย่างไร ทางพรรคก็อาจจะแถลงสื่อสารผลวินิจฉัยให้ประชาชนทราบ รวมทั้งกรณีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วย โดยตนอยู่ในจุดที่ต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อนำส่งไปยังคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของคณะกรรมการบริหารว่าจะพิจารณาอย่างไร
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงกรณีโทษหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงว่า โดยข้อกล่าวหาเคสนี้ก็เป็นข้อกล่าวหาในประเด็นเรื่องเพศ โดยเกณฑ์ข้อบังคับที่พรรคตั้งไว้หากเกี่ยวกับเรื่องเพศและวินิจฉัยว่ามีความผิด อาจจะต้องดูพฤติการณ์ว่าเป็นความผิดที่เข้าข่ายเรื่องเพศในแบบใด ถือว่าเป็นเรื่องวินัยร้ายแรง หากกรรมการบริหารวินิจฉัยว่ามีความผิดก็จะมีการตัดสิทธิ์ได้ใน 2 แบบเท่านั้น คือ
1.ตัดสิทธิ์ที่พึงมีในฐานะสมาชิกทั้งหมด แต่ต้องไม่กระทบกับสิทธิ์ในฐานะที่เป็น สส. และรวมถึงการสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งถัดไป
2.กรณีที่ให้พ้นจากสมาชิกภาพ เพราะเรื่องเพศเราไม่สามารถวินิจฉัยเป็นอื่นไปได้
"อย่างไรก็ตามสำหรับเคสนี้ก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้น ณ ขณะนี้ยังถือว่าอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน เพื่อนำมาวินิจฉัยว่าเป็นความผิดหรือไม่ ที่สุดการพิจารณาสุดท้ายจะอยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรค ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นคณะกรรมการวินัยอยู่" นายณัฐวุฒิ กล่าว