'สุทิน' แฮปปี้ ทหาร เด้งรับนโยบายรัฐบาล ยัน จะออกหน้าแจงงบฯ67 ในสภา
"สุทิน" ตรวจเยี่ยม "กองทัพไทย" เชื่อมั่น จะปกป้องอธิปไตย ราชบัลลังก์ ประชาชน รับแฮปปี้ สบายใจ ทหาร สนองนโยบายรัฐบาล ย้ำ ภารกิจช่วยบรรเทาภัยพิบัติ ยันจะออกหน้า แจงสภา จัดงบปี 67เน้น คุ้มค่า โปร่งใส และจำเป็น
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2566นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ตรวจเยี่ยมกองบัญชาการกองทัพไทย อย่างเป็นทางการ หลังจากรับตำแหน่งรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้การต้อนรับ ณ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ
เพื่อรับทราบภารกิจ การจัด การดำเนินงานที่สำคัญของกองบัญชาการกองทัพไทย โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จากนั้นได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสมสามเหล่าทัพ และรับฟังการบรรยายสรุปภารกิจของกองบัญชาการกองทัพไทย รับชมวีดิทัศน์การสาธิตระบบควบคุมบังคับบัญชา พร้อมมอบนโยบายในการปฏิบัติงานให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย
จากนั้น นายสุทิน แถลงข่าวว่า การมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้รู้สึกอบอุ่น ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และสัมผัสได้ถึงความพร้อมและความเข้มแข็งของกองทัพไทย ทางด้านศักยภาพที่จะทำให้เราเชื่อมั่นว่า กองทัพไทยซึ่งเป็นองค์กรที่ประสานงานกับทุกเหล่าทัพ จะสามารถปกป้องอธิปไตย ราชบัลลังก์ เป็นที่พึ่งของประชาชน สนับสนุน กิจกรรมของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนได้ทราบว่า ทางกองทัพไทยและเหล่าทัพ ได้ขับเคลื่อนนโยบาย ที่ทางรัฐบาลได้มอบให้อย่างน่าภูมิใจ ทั้งการเปลี่ยนระบบตรวจเลือก ทหารเกณฑ์ การปรับลดกำลังพล การนำที่ดินของทหารมาใช้ ซึ่งมีการดำเนินการไปไกลมากแล้ว ตนก็รู้สึกสบายใจ และมีความเชื่อมั่นในกองทัพ
อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้เน้นย้ำในนโยบาย 8 ข้อที่ให้ไว้ในตอนที่ประชุมสภากลาโหม แต่เรื่องเร่งด่วนสำคัญคือการช่วยเหลือประชาชน ในภัยพิบัติต่างๆ ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง หรือ ประสบภัยพิบัติในต่างประเทศอย่างที่เป็นอยู่ ก็เน้นย้ำให้กองทัพ ได้เตรียมพร้อมและทุ่มเท ให้ถึงที่สุด พร้อมเน้นย้ำไว้เรื่องการปราบปรามการทุจริตหรือทำให้องค์กรเป็นองค์กรที่โปร่งใสก็ได้
อย่างไรก็ตามในเรื่องของการรับมือภัยสงครามที่เป็นความขัดแย้งคนในต่างประเทศนั้นกองทัพมีความชำนาญและประสบการณ์ไม่ว่าจะเกิดในประเทศไทยหรือต่างประเทศ
ส่วนการจัดทำงบประมาณประจำปี 2567 นั้น ก็ยึดฐานเดิมที่เคยทำมาและมาพิจารณา ในภาวะในปี2567 ในเวลาที่เหลือสั้นๆจะสามารถทำอะไรได้หรือไม่ สิ่งใดที่ไม่สำเร็จก็ปรับรอเสนอในปี 2568 ส่วนที่กองทัพจะจัดซื้ออาวุธก็ให้ซื้อเท่าที่จำเป็น เน้นการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าโปร่งใสและตรวจสอบได้
"อย่างไรก็ตามตนจะทำหน้าที่ ในการดูแลจัดสรรงบประมาณของกองทัพอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ถูกตัดเพิ่มเติม เพราะปัจจุบันตัดแล้วตัดอยู่ และได้ตัดไปเยอะแล้ว แต่ก็ต้องฟังเหตุและผล ในรัฐสภาดูประชาชน อย่างที่บอก จัดและซื้อเท่าที่จำเป็น และมาพิจารณาร่วมกัน อันไหนที่จำเป็นจนตนก็จะช่วยชี้แจงเต็มที่ในสภา ให้เขาเข้าใจ เพราะบางเรื่องทางสภาก็ยังไม่เข้าใจกองทัพรวมถึงสังคม ผมเข้ามาแล้วก็มีความเข้าใจมากกว่าก็จะมาช่วยอธิบาย"นายสุทิน กล่าว