‘เศรษฐา’ เยือนมาเลย์ หารือ ‘อันวาร์’ ดันชายแดนใต้ สู่พื้นที่เติบโตการค้า

‘เศรษฐา’ เยือนมาเลย์ หารือ ‘อันวาร์’ ดันชายแดนใต้ สู่พื้นที่เติบโตการค้า

“เศรษฐา” เยือนมาเลเซีย หารือ อันวาร์ อิบราฮิม ย้ำความร่วมมือส่งเสริมร้านอาหารฮาลาล เห็นพ้องตั้งคณะทำงานร่วม อำนวยความสะดวกการค้าชายแดน มุ่งเปลี่ยนชายแดนใต้ จากความขัดแย้งเป็นพื้นที่เติบโตใหม่ ด้านเศรษฐกิจการค้า

เมื่อเวลา 15.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซียซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) ณ ทำเนียบรัฐบาลมาเลเซีย ณ เมืองปุตราจายา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบหารือกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (H.E. Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสย้ำความมุ่งมั่น และต้องการที่จะทำงานเพื่อเดินหน้าศักยภาพ และความร่วมมือระหว่างกัน บนพื้นฐานของสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งสองประเทศ พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยือนไทยในโอกาสแรกที่สะดวก โดยนายกรัฐมนตรียังได้เสนอความร่วมมือทางด้านอาหาร สินค้าเกษตร ซึ่งไทยมีความมั่นคงทางอาหาร จึงหวังที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านอาหารฮาลาล ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ

ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะตั้งคณะทำงานร่วมกัน (Task force group) ในด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น ด้านการท่องเที่ยว เพื่อผลักดันการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ทั้งนี้ นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นต่างๆ ร่วมกัน ดังนี้

ไทย และมาเลเซียต่างเห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยจะตั้งเป้าหมายการค้า (Bilateral trade) ระหว่างกันใหม่ โดยต่างฝ่ายต่างเป็นคู่ค้าอันดับต้นๆ ของกัน และกันในอาเซียน ซึ่งการปรับปรุงการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการเชื่อมโยงข้ามพรมแดนจะเป็นกุญแจสำคัญ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล และเศรษฐกิจสีเขียว โดยต่อยอดจากความร่วมมือที่มีอยู่ รวมถึงสำรวจความร่วมมือในการเชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่า และระบบนิเวศน์สำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (hi-tech sectors) รวมถึงการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (proton) รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) 

นายกรัฐมนตรีมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงภาคใต้ของประเทศไทย และตอนเหนือของมาเลเซียให้เป็นพื้นที่การเติบโตใหม่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองประเทศ รวมทั้งเร่งรัดความคืบหน้าโครงการเชื่อมโยงที่สำคัญต่างๆ ที่จะเชื่อมต่อสองประเทศเข้าด้วยกัน และจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้า และการเดินทางของประชาชน ซึ่งหากประชาชน และนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางข้ามชายแดนได้ง่ายขึ้น และทั้งสองฝ่ายร่วมกันส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณชายแดน ก็จะช่วยเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยว และส่งเสริมการเชื่อมโยงธุรกิจท้องถิ่นให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เปลี่ยนพื้นที่ความขัดแย้งเป็นพื้นที่การค้า

นายกรัฐมนตรีย้ำในตอนท้ายว่า ไทยและมาเลเซียเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อพัฒนาความร่วมมือระดับภูมิภาคภายใต้อาเซียน รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีพร้อมร่วมมือกับมาเลเซียเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอาเซียน และส่งเสริมสันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค

จากนั้นในเวลา 16.10 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซียซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงข่าวร่วมกัน ก่อนจะร่วมรับประทานอาหารเย็น ที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์