ยื่น ป.ป.ช.สอบจริยธรรม สส.แชตสยิว โดนกล่าวหาคุกคามทางเพศ
ถึงคิว 'ผู้นำองค์กรรักชาติฯ' ยื่น ป.ป.ช.จี้สอบ สส.แชตสยิว หลังโดนกล่าวหามีพฤติการณ์คุกคามทางเพศอาสาสมัคร 'ก้าวไกล' ส่อเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องพร้อมเอกสารพยานหลักฐานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นกรณีมี สส.ปราจีนบุรี มีพฤติการณ์แชทไลน์กับหญิงสาวซึ่งเป็นอาสาสมัครพรรคก้าวไกลในลักษณะลามกอนาจาร และอาจมีการข่มขู่คุกคามด้วยนั้น เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตามที่มีโซเชียลมีเดีย และสื่อมวลชนได้รายงานสอดคล้องต้องกันว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดปราจีนบุรี ถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทางเพศ แชทหาทีมงานอาสาสมัครของพรรคสาว ซึ่งมีทั้งภาพและคำลามกมากมาย ซึ่งบทสนทนาส่อแววพฤติกรรมคุกคามทางเพศ ทั้งยังมีการลวนลามอีกด้วย หลายกรรม หลายวาระ
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีนี้หญิงสาวซึ่งเป็นทีมงานอาสาสมัครของพรรคก้าวไกล ได้อ้างว่าได้มีหนังสือร้องเรียนไปยังพรรคก้าวไกลเพื่อให้ดำเนินการสอบสวน เอาผิด และหรือลงโทษ สส.รายดังกล่าวตามข้อบังคับพรรคก้าวไกลมานานแล้ว ตั้งแต่เดือนสิงว่าทางพรรคก้าวไกลยังไม่มีการสรุปหรือดำเนินการลงโทษ สส.รายดังกล่าวแต่อย่างใด แต่กลับมีข้ออ้างสารพัด ซึ่งผิดวิสัยของพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ ที่หาเสียงมาโดยตลอดว่าจะทำการเมืองอย่างตรงไปตรงมา
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า แม้ สส.คนนั้นจะออกมาไลฟ์สดชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้ว ในทำนองถูกดิสเครดิตเพื่อหวังผลการทำงานตรวจสอบในเชิงพื้นที่นั้น ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน เพราะหลักฐานการแชทไลน์ที่ปรากฏนั้น หากเป็นเรื่องจริง ย่อมจะเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ในหลาย ๆ ข้อ อาทิ ข้อ 6 ข้อ 9 ทข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 17 และข้อ 20 ประกอบ ข้อ 27 และยังเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขปี 2560 อีกด้วย ทางองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำพยานหลักฐานมาร้องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวน เอาผิด สส.รายดังกล่าว ตามครรลองของกฎหมาย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อนักการเมืองรายอื่น