‘บิ๊กทิน-เหล่าทัพ’ ปรับ‘ทีมโฆษก’ พีอาร์กองทัพ กู้วิกฤตศรัทธา

เข้าสู่ยุคที่ “กองทัพ”ต้องปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง จากรัฐบาลที่มาจากพลเรือนล้วนๆ จึงต้องปรับกลยุทธ์ เสริมทีมประชาสัมพันธ์กันยกใหญ่ ให้สอดรับแนวทางนโยบาย พร้อมตั้งเป้ากลับมาทำภารกิจหลัก รักษาอธิปไตยของประเทศ และทำหน้าที่ตามกรอบของรัฐธรรมนูญ

เริ่มด้วยทีม “โฆษกกระทรวงกลาโหม”ชุดใหม่ “บิ๊กหนุ่ม” พล.อ.สถิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปัจจุบันทำงานเปรียบเสมือนเลขาส่วนตัว “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม ใช้เวลาเฟ้นหาบุคคลที่เหมาะสมอยู่หลายวันกว่าลงตัวได้ทีมผสม 3 เหล่าทัพ “ทหารเรือ ทหารบก ทหารอากาศ”

ก่อนส่งให้ รมว.กลาโหม ลงนาม ประกอบด้วย พล.ร.ต. ธนิตพงศ์ สิริเศวตศักดิ์ โฆษกกระทรวงกลาโหม พล.ต.แรงภูมิ เหมะทัพพะ หัวหน้าสำนักงานโมษกกระทรวงกลาโหม

พ.อ.หญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม และผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม 3 คน พ.ท.หญิง พัชรี สันทาลุนัย นาวาอากาศโทหญิง จิตติมา มาลารัตน์ ร.อ.หญิง ณฐมน กุญชร

โดย “สุทิน” ปักหมุดนโยบายเน้นประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ภารกิจและการปฏิบัติหน้าที่ราชการของกระทรวงกลาโหม ด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ในการสร้างความเข้าใจอันดีต่อสังคมและสาธารณชน พร้อมกับเสริมภาพลักษณ์ที่ดีกับส่วนราชการอื่น

“สิ่งที่อยากเห็นคือ กองทัพที่ทันสมัย มีศักยภาพสูง สามารถป้องกันอธิปไตยได้ มีขนาดพอเหมาะกับภารกิจ กะทัดรัด พร้อมรับ กับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ เป็นที่ยอมรับของประชาชน ทำให้ประชาชนกลับมารักทหาร ได้ใจประชาชน ที่รักอยู่แล้ว ให้รักมากขึ้นไปอีก” รมว.กลาโหม ระบุ

ส่วน “กองทัพไทย” ก็เปลี่ยนสไตล์การประชาสัมพันธ์ ไม่มุ่งเน้นตัวบุคคล ผู้บังคับบัญชา หรือ อาศัยเพียงทีมโฆษก แต่ให้ทุกหน่วยในสังกัดสามารถพีอาร์ชี้แจงประเด็นต่างๆที่ประชาชนให้ความสนใจด้วยตัวเอง เพื่อให้เห็นว่ากองทัพทำงานเพื่อประชาชน ตามนโยบาย พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด โดยมี “ผู้พันเบิร์ด” พล.ต.วันชนะ สวัสดี นักแสดงชื่อดัง นำทีมมีเดียของแต่ละหน่วยพร้อมพีอาร์

มารอบนี้ “กองทัพบก” ถือเป็นเหล่าทัพที่รับบทหนักสุด นับตั้งแต่วันแรก “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.รับตำแหน่งหมาดๆ เจอปัญหาใหญ่สั่นคลอนภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชน การทุจริตน้ำมันหายจากคลังทหาร 2 แสนลิตร เมื่อปี 2565 และกรณีผู้ต้องหากราดยิงในห้างสยามพารากอน ใช้สนามยิงปืนของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน(นรด.)เป็นสถานที่ฝึกซ้อม

ถือเป็นบททดสอบ ทีมโฆษกกองทัพบก ชุดใหม่ ที่ ผบ.ทบ.เน้นย้ำ ให้ทำงานเชิงรุก รวดเร็ว แม่นยำ ทันต่อสถานการณ์ และตรงกลุ่มเป้าหมาย หวังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร

นำโดย พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล โฆษกกองทัพบก

พ.อ. ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ รองโฆษกกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ เป็นรองโฆษกกองทัพบก

และเพื่อไม่ให้ทีมโฆษกดูแข็งกร้าวเกินไป ดึงทีมโฆษกทหารหญิงชุดเดิมของ พล.ต.หญิงศิริจันทร์ งาทอง มีผลงานการันตี 3 ปีซ้อนมาเสริมทัพเป็น “ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก” ทั้ง พ.ท.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ร.อ.หญิง กัญญ์ณณัฐ พรนิพัทธ์กุล หรือ ผู้กองแป้ง ที่เคยผ่านเวทีประกวดนางงามคว้า 3 รางวัล จ.นครศรีธรรมราช ปี 2560

ส่วนอีกคนแม้เป็นน้องใหม่ แต่ประชาชนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี “ผู้พันโอ๋” พ.ต.หญิงญดา โชติชูตระกูล อดีตนักแสดงชื่อดัง ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าว ททบ.5 และ ร.อ.หญิง จุทาพัชร เปรมบัญญัติ

"ก่อนหน้านี้ทหารชี้แจงอะไรไป คนไม่ค่อยเชื่อเพราะมองว่า เป็นทหารด้วยกัน ต้องเข้าข้างกันเอง ทั้งๆ ที่สิ่งที่พูดไปเป็นจริงทั้งหมด เราปฏิรูปกองทัพทำกันมานานแล้ว ปรับโครงสร้าง ลดกำลังพล สร้างแรงจูงใจคนสมัครเป็นทหาร จะได้ไม่ต้องเกณฑ์ รวมถึงการตรวจสอบทุจริตภายในกองทัพ ทำกันจริงจัง เอาคนผิดมาลงโทษ แต่คนไม่เชื่อ พอมีท่านสุทิน ซึ่งเป็นฝ่ายการเมือง มาเป็น รมว.กลาโหม ได้รับรู้ข้อมูลว่ากองทัพทำอะไรไปแล้วบ้าง ท่านช่วยชี้แจง ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ ช่วยกองทัพได้มาก" แหล่งข่าวในกองทัพระบุ

 สายต่อภารกิจกอบกู้ความเชื่อมั่น ศรัทธาของประชาชนกลับคืน เพราะปีที่ผ่านมา “กองทัพเรือ”พบกับมรสุมหนักทั้งปัญหา เรือดำน้ำขาดเครื่องยนต์ เรือหลวงสุโขทัยล่ม พฤติกรรมกำลังพลขาดระเบียบวินัย รวมถึงกรณีกระสุนหายจากคลังแสงนับหมื่นนัดจากคลังสรรพาวุธนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ต้องยกเครดิต “บิ๊กคลื่น” พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน อดีตโฆษกกองทัพเรือ ปัจจุบันเป็น รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด สามารถประคับประคองสถานการณ์ โดยอาศัยการชี้แจงตอบโต้ รวดเร็ว ตรงประเด็น ลดความคลางแคลงใจของประชาชน

และก่อนพ้นตำแหน่งโฆษกกองทัพเรือ “บิ๊กคลื่น” ได้รับการมอบหมายจาก พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม ผบ.ทร.คนปัจจุบัน ให้ทำหน้าที่เฟ้นหาโฆษกกองทัพเรือคนใหม่ ก่อนเคาะชื่อ“พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน” รับมือภารกิจดังกล่าว พร้อมการันตีว่า โฆษกคนใหม่ ถอดแบบโฆษกคนเก่าไม่ผิดเพี้ยน

โดยทั้งทีมโฆษกกระทรวงกลาโหม และทีมโฆษกเหล่าทัพจะทำงานสอดประสาน สนับสนุนข้อมูลซึ่งกัน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์“รมว.กลาโหม”ที่ว่า ทหารจะเป็นที่พึ่งของประชาชนทุกโอกาส