รมว.แรงงาน เผยยอดคนไทยต้องการกลับบ้าน 7,500 คน -เจรจา ขอประเทศที่ 3 ช่วย
รมว.แรงงาน เผยยอดล่าสุดคนไทยต้องการกลับบ้าน 7,500 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน 18 คน ระบุ นายกฯ จ่อ เจรจา ขอประเทศที่ 3 ช่วย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยกลับจากอิสราเอล ว่า ขณะนี้สถานทูตไทยในอิสราเอล พร้อมด้วยกระทรวงแรงงาน ได้รับผู้ใช้แรงงานไทยมาอยู่ที่กรุงเทลอาวีฟ ทั้งนี้ วันหนึ่งเรามีไม่น้อยกว่า 2 ไฟลท์บิน ที่จะรับผู้ใช้แรงงาน 300-400 คน ขณะนี้เราเริ่มกระบวนการระดมเจ้าหน้าที่ไปกรุงเทลอาวีฟเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นการเคลื่อนย้ายผู้ใช้แรงงานน่าจะทำได้ดีขึ้น เร็วขึ้น
ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีดำริให้นำผู้ใช้แรงงานที่ลงทะเบียนล่าสุดทั้งหมด 7,500 คน กลับให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ แต่อยู่ที่ว่าจำนวนเครื่องบินที่จะไปช่วยนั้นเรามีมากน้อยเพียงพอหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบขณะนี้ มีเครื่องบินการบินไทย 1 ลำ กองทัพอากาศ 1 ลำ นกแอร์ 2 ลำ และแอร์เอเชีย 2 ลำ ซึ่งเชื่อว่าถึงแม้จะไม่หมดก็คงจะใกล้เคียง แต่หลังจากนี้เราจะยังต้องดูเหตุการณ์ต่อไป ว่าสุดท้ายแล้วสงครามนี้จะเลิกเมื่อไหร่ หรือจะเบาบางลงหรือไม่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะลุกลามมาถึงตอนกลาง หรือภาคเหนือของอิสราเอลหรือไม่ เพราะถ้าลุกลามมาถึงเราคงต้องพยายามขนผู้ใช้แรงงานที่มีความประสงค์ที่จะกลับประเทศไทยกลับมาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราสามารถนำผู้ใช้แรงงานไทยกับประเทศได้แล้วประมาณ 500 คนแล้ว
เมื่อถามถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยเสียชีวิตยังอยู่ที่อิสราเอล นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เราคงทำโดยลำพังไม่ได้ เพราะอยู่ที่ทางรัฐบาลของอิสราเอล อยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์ ว่าคนที่เสียชีวิตในอิสราเอลขณะนี้เป็นของประเทศใดบ้าง ซึ่งในนั้นมีส่วนหนึ่งที่เป็นคนไทย เมื่อมีการพิสูจน์อัตลักษณ์เรียบร้อยก็น่าจะมีการส่งกลับมา เพราะขณะนี้เรามีไฟลท์บินมาเมืองไทยทุกวัน เชื่อว่าอีก ไม่เกิน 1 สัปดาห์น่าจะมีการลำเลียงศพกลับมาได้บ้าง สำหรับคนที่พิสูจน์อัตลักษณ์เสร็จ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนายจ้างกักตัวผู้ใช้แรงงานไม่ให้กลับมาหรือยังคงให้ไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปแล้วว่า ขอความกรุณาจากนายจ้างที่เป็นชาวอิสราเอลซึ่งในช่วงเวลาขณะนี้ไม่ควรที่จะให้คนงานยังต้องทำงาน เพราะอยู่ในภาวะที่มีความไม่สงบ สิ่งเหล่านี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปแล้วจึงอยู่ที่เอกอัครราชทูตจะต้องประสานกับทางรัฐบาลอิสราเอล และนายจ้างของอิสราเอล
เมื่อถามถึงความคืบหน้าสถานการณ์การจับแรงงานไทยเป็นตัวประกัน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้เท่าที่ทราบประมาณ 18 คน และยังไม่มีข่าวคราว แต่เชื่อว่าจากการที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปประเทศจีนจะมีการเจรจาผ่านอีกหลายๆประเทศ และเมื่อกลับจากประเทศจีนแล้วนายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปยังซาอุดิอาระเบีย ซึ่งคงจะมีการหารือกันในเรื่องของการช่วยเหลือตัวประกันผ่านประเทศที่สาม สี่ ห้า ก็แล้วแต่ว่าประเทศไหนที่คิดว่าจะมีโอกาสช่วยเราได้ นายกรัฐมนตรีจะหารือทั้งหมด