‘แดงชิงส้ม’โกยแต้มประชานิยม 20บาทรถไฟ‘ซื้อใจ’คนกรุง?

‘แดงชิงส้ม’โกยแต้มประชานิยม  20บาทรถไฟ‘ซื้อใจ’คนกรุง?

เส้นทางเลือกตั้งแม้จะอีกยาวไกล แต่เพื่อไทยซึ่งมีบทเรียนมาแล้ว ไม่แปลกที่ยามนี้จะเห็นภาพการอัดประชานิยม ซื้อใจโหวตเตอร์ โดยเฉพาะสนามเมืองฟ้าอมรอย่าง"กรุงเทพมหานคร" ประเดิมประชานิยมแรกด้วยรถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย

ตามสุภาษิตที่ว่า “แค้นนี้ 10 ปียังไม่สาย”  แต่สำหรับ “สนามการเมือง”  หรือการเลือกตั้งแล้วอาจต่างกันตรงที่ไม่ต้องรอถึง10ปี แต่ไม่เกิน4ปี ก็คงจะรู้ดำรู้แดงกันไปข้าง 

โดยเฉพาะ “เมืองฟ้าอมร” อย่างกทม. ที่ยามนี้เห็นภาพ “นโยบายชิงแต้ม” 50 เขตเมืองหลวง ตอกย้ำชัดล่าสุดรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโชว์ผลงานชิ้นโบแดง อนุมัติค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ประเดิม 2 สายแรกที่ “สายสีม่วง” สถานีคลองบางไผ่ถึงสถานีเตาปูน และ “สายสีแดง” สถานีกลางบางซื่อถึงสถานีรังสิต

อย่างที่รู้กันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยประโคมโหมโรงมาตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือสก.ทั้ง 50 เขต  เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2565

เวลานั้น เพื่อไทยชูนโยบาย “30 บาท ถึงที่หมาย” เป็น 1 ใน 5 นโยบายหาเสียง โดยมีหลักใหญ่ใจความคือ การผลักดันให้กระทรวงคมนาคมบริหารจัดการรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟลอยฟ้า หน่วยงานเดียว เพื่อการบริหารค่าโดยสารที่เชื่อมต่อกันเป็นโครงข่าย เสียค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียว ผู้โดยสารจะเข้ามาใช้งานมากขึ้น ทำให้ค่าตั๋วโดยสารถูกลงด้วย

‘แดงชิงส้ม’โกยแต้มประชานิยม  20บาทรถไฟ‘ซื้อใจ’คนกรุง?

 

ไม่เว้นแม้แต่การเลือกตั้ง “ผู้ว่ากทม.” ซึ่งเกิดขึ้นวันเดียวกัน ยามนั้นพรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งผู้สมัคร แต่ออกตัวสนับสนุน “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ที่ลงชิงในนามอิสระ เวลานั้น “ชัชชาติ” พูดถึงราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยเฉพาะสายสีเขียวซึ่งอยู่ในการดูแลของกทม. ว่า

 “สายสีเขียวที่เราไปดูต้นทุนมา คิดว่าสัก 25-30 บาทน่าจะทำได้ แต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับสัญญา จากนี้ถึงปี2572 ราคาจะขึ้นอยู่กับเอกชน เพราะสัมปทานเป็นของเอกชน แต่หลังปี 2572 จะกลับมาเป็นของกทม. ราคากทม.จะเก็บเท่าไหร่ก็ได้แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เราจ้างเขาเดินรถเท่าไหร่”  

ชัชชาติ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2565 ก่อนรู้ผลการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.และสก.5วัน

ไม่เพียงแต่ "ชัชชาติ" แต่ยังมีผู้สมัครคนอื่นๆอาทิ "รสนา โตสิตระกูล" ผู้สมัครอิสระ ที่ชูนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทเช่นเดียวกัน 

ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น “ชัชชาติ” ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้น 1,375,978 คะแนน เป็นผู้ว่ากทม.คนที่17 ไม่ต่างจากผลการเลือกตั้งสก. 50 เขตพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนป๊อปปูล่าโหวตที่1ด้วยคะแนน 620,009 คะแนน ได้สก. 20 ที่นั่ง  พรรคก้าวไกล ได้ป๊อปปูล่าโหวต 485,830 คะแนน ได้สก. 14 ที่นั่ง 

ส่วนที่เหลือเป็นของ พรรคประชาธิปัตย์ ได้สก. 9 ที่นั่ง พรรคไทยสร้างไทย 2 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ  2ที่นั่ง และ กลุ่มรักษ์กรุงเทพ 3 ที่นั่ง 

‘แดงชิงส้ม’โกยแต้มประชานิยม  20บาทรถไฟ‘ซื้อใจ’คนกรุง?

ทว่าเมื่อมาถึงการเมืองสนามใหญ่ สนามกทม.เกิดปรากฏการณ์  “ส้มกินแดง” เมื่อพรรคก้าวไกลปักธง “ผู้แทนเมืองหลวง” ไปถึง32ที่นั่งทั้งหมด 33 เขต ด้วยคะแนนป๊อปปูล่าโหวต 1,397,554  ขณะที่เพื่อไทยได้สส.เมืองหลวงเพียงหนึ่งเดียวได้คะแนนป๊อปปูล่าโหวต 639,998 คะแนน ขณะที่พรรคที่เหลือสูญพันธุ์ทั้งหมด 

ฉะนั้นด้วยบทเรียนที่เกิดขึ้น บอกได้เลยว่า แม้เส้นทางเลือกตั้งยังอีกยาวไกล แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาทแล้ว ในยามที่เพื่อไทยชิงเกมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จำต้องเร่งชิงจังหวะอัดประชานิยมหวังซื้อใจโหวตเตอร์ในอนาคต

โดยเฉพาะสนามเมืองหลวงที่เดินหมากตัวแรก ด้วยการอนุมัติค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ประเดิมก่อน2สายที่สายสีแดงและสีม่วง ซึ่งเป็นนโยบายที่เคยถูกพรรคก้าวไกลรวมถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านเย้ยหยันในสภา เมื่อครั้งแถลงนโยบายรัฐบาล เมื่อช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา หลังไม่ปรากฏในคำแถลงนโยบายว่า “ไม่มีทางทำได้”

เช่นนี้ต้องจับตาว่า จากนี้พรรคเพื่อไทยจะขนประชานิยมใดมาหว่านเพิ่มเติมอีก เชื่อได้เลยว่า ไม่ได้มีแค่นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทเพียงนโยบายเดียวแต่ยังมีสารพัด “อภิมหาประชานิยม” ที่จะถูกปล่อยออกมาในอีกไม่ช้าไม่นานหลังจากนี้อีกแน่นอน! 

‘แดงชิงส้ม’โกยแต้มประชานิยม  20บาทรถไฟ‘ซื้อใจ’คนกรุง?