'โตโต้' ลุยต่อถาม กทม.ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยเปิดตลาดนัดเถื่อนหรือไม่
'โตโต้' ลุยต่อ! ทวงถาม กทม.ละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หลังปล่อยให้มีการเปิดตลาดนัดเถื่อน ซุกเล่นพนัน ไร้ใบอนุญาต เตรียมตั้งกระทู้ถาม รมว.มหาดไทย 19 ต.ค.นี้ พร้อมคุย 'ชาดา' สางปัญหา เหน็บตำรวจไม่อยากเจอ ก็บันดาลให้ไม่เจอได้
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงถึงความคืบหน้าการเปิดตลาดนัดสัญจรที่มีการพนันอยู่เบื้องหลังในพื้นที่เขตบางนา ว่า เรื่องนี้เป็นมากกว่าการพนัน แต่เป็นขบวนการต้มตุ๋นประชาชนที่อาศัยพื้นที่ในตลาดดังกล่าว เพื่อหลอกลวงทรัพย์สินจากประชาชนเป็นจำนวนมากต่อเนื่องหลายเดือนติดต่อกัน ซึ่งประชาชนในพื้นที่ทราบดีว่าทุกๆ เดือน บ่อนเหล่านี้จะมาตลาดเดือนละ 10 วัน และเวียนไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่เขตบางนา เชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตอื่นๆ อีก รวมถึงปริมณฑลด้วย
"ดังนั้นปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยในเขตบางนาเท่านั้น และจะต้องมีผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีสีอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน เนื่องจากเราได้ติดตามและร้องเรียนกับทุกหน่วยงานของรัฐ เริ่มจากสำนักงานเขตบางนา โดยทำหนังสือร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ซึ่งทางสำนักงานเขต ตอบกลับมาว่า ตลาดกำลังขออนุญาตแต่ยังไม่ได้รับอนุญาต จึงขอตั้งคำถามว่า 1. ตลาดเปิดได้อย่างไร 2.สำนักงานเขต ชี้แจงว่า ได้มีการเปรียบเทียบปรับไปแล้ว แต่เมื่อดูในเอกสารเป็นเอกสารที่ปรับแค่เรื่องการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ไม่ได้ปรับตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สาธารณะว่าด้วยเรื่องตลาด และข้อบัญญัติของกรุงเทพฯ ว่าด้วยเรื่องการอนุญาตตั้งตลาด" นายปิยรัฐ กล่าว
นายปิยรัฐ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกรมการปกครอง จนขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา และยังไม่ได้รับคำรับรองว่าจะดำเนินการอย่างไรจากกระทรวงมหาดไทย จึงไปตั้งคำถามในสภาฯ เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา คิดว่าเรื่องที่จะได้รับการแก้ไขแต่ปรากฏว่า ได้มีการตั้งตลาดอีกครั้งในวันที่ 13 ต.ค.ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 23 ต.ค.โดยประชาชนได้มีการร้องเรียนมายังตน ประชนรายที่เสียหายหนักที่สุดเป็นเงินมากถึง 3 แสนกว่าบาท จนถูกตราหน้าว่า สส. มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เพราะร้องเรียนไปหลายครั้งแล้วก็ไม่ได้รับการแก้ไข จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ตนต้องไปยืนเตือนประชาชนที่จะเข้าไปใช้พื้นที่ตลาด จึงเป็นประเด็นที่ต้องมาถกเถียงกันในวันนี้
นายปิยรัฐ กล่าวอีกว่า วันนี้ขอชี้แจงเพิ่มเติม 2 ประเด็น ประเด็นแรก ตลาดไม่ได้มีการจัดในรูปแบบทั่วไป เนื่องจากมีกฎหมายระบุว่า ตามพ.ร.บ.สาธารณสุข การตั้งตลาดนัดจะต้องมีการอนุญาตจากท้องถิ่น ถึงจะสามารถจัดตั้งได้ ดังนั้นเมื่อ กทม. ไม่ได้อนุญาต แล้วมีการจัดตั้งตลาดได้อย่างไร ล่าสุด กทม. ได้ออกมาแถลงว่า ไม่ได้มีการปรับในรอบล่าสุดเพราะตลาดขออนุญาตอย่างถูกต้องในปี 2564 จึงตั้งคำถามว่า ใครเป็นคนขออนุญาต และขอตั้งแต่เมื่อไหร่ รูปแบบผังเป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็นข้อผิดพลาดของ กทม. หรือไม่ เป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ประเด็นที่สอง ตลาดลักษณะนี้ไม่ได้เป็นไปตามผังตลาดอย่างแน่นอน เนื่องจากการทำตลาดนัดต้องมีผังชัดเจน ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนที่อาศัยข้างเคียง ซึ่งตลาดดังกล่าวกระทบแน่นอน ทั้งเสียง การจราจร
"นี่คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ยืนยันว่าตลาดล่าสุดที่เกิดขึ้นซึ่งใช้พื้นที่เอกชน ไม่ได้ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย สำนักงานเขตฯ ต้องชี้แจงเรื่องนี้ หลังออกมาแถลงว่าไม่มีการปรับรอบนี้ ตนถือว่ารอบนี้มีปัญหา ส่วนสน.และตำรวจจะอ้างว่าไม่พบการพนันที่เกิดขึ้นหลังตรวจสอบแล้ว มองว่าเป็นเรื่องปกติ ตำรวจมักจะไม่เจออะไรในสิ่งที่ตำรวจไม่อยากเจอ นี่คือข้อเท็จจริง เมื่อตำรวจไม่อยากเจอ เขาก็สามารถบันดาลว่าไม่เจอได้” นายปิยรัฐ กล่าว
นายปิยรัฐกล่าวด้วยว่า ตนขอความเห็นอกเห็นใจจากประชาชนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และฝากว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในพื้นที่ของท่านหลายพื้นที่ อยู่ที่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะเห็นความสำคัญในเรื่องนี้หรือไม่
เมื่อถามว่า มูลค่าความเสียหายที่รวบรวมได้ขนาดนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า ที่มีการร้องเรียนมาถึงตนเองรวมๆ ก็เกือบล้าน รายเดียวก็ 3 แสนกว่า และรายอื่นๆคนละ 2-5 หมื่นบาท ทั้งนี้จะเป็นคดีความหรือไม่ให้สุดแล้วแต่ความสะดวกสบายของผู้ร้องทุกข์ เนื่องจากรู้ว่านี่คือกลุ่มผู้มีอิทธิพล เมื่อมีปัญหาในการเล่นไม่ยอมจ่ายเงินก็จะมีการถ่ายรูปผู้ที่เข้าไปเล่น รวมถึงมีการข่มขู่ผู้เสียหาย ทำให้หลายรายไม่กล้าไปร้องทุกข์
“ผมคงไม่สามารถไประบุชัดเจนว่าเป็นบุคคลใดหรือสีไหน เพียงแต่ว่าหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานที่ผมไปร้องเรียน และดำเนินการไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขต สถานีตำรวจ ก็ไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง แม้เราจะมีความพยายามแล้ว โดยเฉพาะตนได้มีการตั้งคำถามหารือผ่านประธานสภาไปตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ยังปล่อยให้มีลักษณะนี้อีก ผมก็ไม่รู้ว่าผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นใคร และจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน” นายปิยรัฐ กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการไปร้องเรียนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.) ตนวางแผน และปรึกษาหารือกับพรรคว่าจะตั้งกระทู้ถามสด รมว.มหาดไทย หวังว่า รมว.มหาดไทยจะเข้ามาตอบกระทู้ถามสดนี้ของตนเกี่ยวกับประเด็นนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ระบุว่า ถ้ามีเบาะแสหรือหลักฐาน ก็ยินดีที่จะรับเรื่องไว้ จะมีการไปพูดคุยกับนายชาดาหรือไม่ นายปิยรัฐ กล่าวว่า จริง ๆ ต้องบอกว่าได้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ถ้านายชาดาต้องการเพิ่มเติม ก็ไม่มีปัญหาอะไรพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ เพราะว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ที่เขตบางนา
"ในฐานะผมที่เป็นโฆษกและกรรมาธิการความมั่นคงฯ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคง จะนำเข้าหารือในที่ประชุม กมธ.ในวันพรุ่งนี้ ถือเป็นเรื่องความมั่นคงของพี่น้องประชาชน ปัญหานี้เป็นต้นตอของอาชญากรรม ประชาชนเสียเงินเสียทอง ต้องเป็นหนี้เป็นสิน หยิบยืม และอาจจะทำให้เกิดอาชญากรรมอื่น ๆ เช่นการวิ่งปล้น จี้กัน หรือการค้ายาเสพติด รวมถึงการกู้ยืมเงินนอกระบบ" นายปิยรัฐ กล่าว