‘เศรษฐา’ เผย ‘นายกฯ อิสราเอล’ โทรมาคุยบ่ายนี้ ยกระดับเจรจาขึ้นไปอีกรอบ
“เศรษฐา” เผย เตรียมรับโทรศัพท์ ”นายกฯ อิสราเอล“ ยกระดับการเจรจาขึ้นไปอีกรอบ ถกเรื่องผลประโยชน์ การจ่ายเงินชดเชย นายจ้างไม่เป็นธรรม วอน คนไทย กลับมาเถอะ หลัง คนแสดงเจตจำนงน้อย ชี้ ความคืบหน้าช่วยตัวประกันไทย มีสัญญาณบวก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสถานเอกอัครทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ แจ้งแรงงานไทยในอิสราเอลที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย ให้มารวมตัวกันที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เทลอาวีฟ ในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จะเป็นเที่ยวบินเที่ยวสุดท้าย และจะไม่ใช่เที่ยวบินเช่าเหมาลำการอพยพ ว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาล เมื่อมีประชาชนแสดงเจตจำนงที่จะเดินทางกลับ เราจึงต้องจัดการเรื่องเที่ยวบินให้เหมาะสม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และบ่ายวันเดียวกันนี้ตนมีนัดที่จะพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ซึ่งท่านจะโทรศัพท์เข้ามาหาตน จะได้มีการคุยกัน ถือเป็นการยกระดับการเจรจาขึ้นไปอีกรอบ
นายกฯ กล่าวว่า ตรงนี้ ก็คงต้องขออ้อนวอน วิงวอนกันอีกครั้ง ขอให้พี่น้องคนไทยกลับมาเถอะ เพราะตอนนี้เราบริหารจัดการได้ตามที่พูดไว้ว่าเราจะเอาแรงงานไทยกลับมาให้หมด แต่จำนวนคนที่แสดงเจตจำนงที่จะกลับมาก็ยังน้อยอยู่ ซึ่งหวังว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตรงนี้
เมื่อถามถึง กรณีนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะทำงานในส่วนของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ไปเจรจาและพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มฮามาสในประเทศอิหร่าน เพื่อช่วยเหลือตัวประกันไทย มีข่าวดีเรื่องการปล่อยตัว นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างที่บอกไว้ทุกฝ่ายก็พยายามเดินหน้าตลอดเวลา อีกทั้งนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ก็รายงานเข้ามาแล้วว่าเป็นไปในเชิงบวก แต่ไม่อยากให้เรื่องความเคลื่อนไหวตอนนี้มีมากเกินไป อยากดูผลงานมากกว่า
นายเศรษฐา กล่าวถึงการคุยกับนายกฯ อิสราเอลว่า มีหลายวาระและหลายเรื่องที่ต้องคุย ทั้งเรื่องผลประโยชน์ เรื่องการจ่ายเงินชดเชย เรื่องที่นายจ้างไม่ให้ความเป็นธรรม เรื่องการอำนวยความสะดวกคนไทยที่ต้องกลับจะเดินทางกลับ ถือเป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า ในส่วนของเที่ยวบินหลังจากนี้ที่จะนำคนไทยกลับจากอิสราเอล จะเป็นลักษณะเหมาลำหรือซื้อตั๋วโดยสารเองแล้วมาขอรับเงินภายหลัง นายกฯ กล่าวว่า ก็แล้วแต่จำนวนของผู้ที่ต้องเดินทางกลับ ถ้ามีแค่หลักสิบหรือไม่กี่คนก็คงไปซื้อตั๋วโดยสารเอาเองและกลับมาจัดการให้
เมื่อถามว่า หลายคนกังวลหลังจากสถานทูตไทยในอิสราเอลระบุว่าเที่ยวบินในวันเดียวกันนี้จะเป็นเที่ยวบินสุดท้ายในการเช่าเหมาลำเพื่ออพยพคนไทยกลับ นายกฯ กล่าวว่า ความต้องการคืออยากให้กลับมาเร็วๆ ซึ่งถ้าเช่าเหมาลำได้ก็สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็วกว่า แต่ถ้ามาวันละ 2-3 คน 5-6 คน ก็คงลำบาก กว่าจะเต็มลำก็ต้องใช้เวลาเป็นอีกสิบวัน เรื่องนี้ตนไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าวิธีไหนจะเหมาะสม แต่ถ้าแสดงเจตจำนงมาให้เยอะ เราก็บริหารจัดการได้ดีกว่า ตรงนี้จึงอยากจะขอร้องให้แสดงเจตจำนงเข้ามา