‘สมศักดิ์’ รับปาก ช่วยเต็มที่ โอน ‘รพ.สต.’ ขึ้นตรง ‘อบจ.’ ชี้ ต้องทำถูกกฎหมาย
“สมศักดิ์” รับหนังสือร้องเรียนจาก ”ชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลฯ“ ให้ช่วยเร่งถ่ายโอนไปขึ้นกับ อบจ. หลัง พบปัญหา ขรก. ไปรายงานตัวแล้ว แต่ สธ. เรียกตัวกลับ รองนายกฯ ยัน ช่วยเต็มที่ จ่อเอาเรื่องเข้าที่ประชุมกระจายอำนาจท้องถิ่น
ที่สำนักงาน ก.พ. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับหนังสือร้องเรียนจากชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งประเทศไทย จำนวนกว่า 100 คน นำโดยนายสมศักดิ์ จึงตระกูล ประธานชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งประเทศไทย กรณีขอให้รัฐบาลสนับสนุนการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด
โดยประธานชมรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้ เพราะต้องการให้รัฐบาล ช่วยแก้ปัญหาการถ่ายโอนข้าราชการจาก รพ.สต. ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด เนื่องจากขณะนี้ มีปัญหาการถ่ายโอน ซึ่งมีข้าราชการบางส่วนได้ไปรายงานตัวที่ อบจ.แล้ว ตามภารกิจการถ่ายโอน แต่ต่อมาทางกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการดึงตัวข้าราชการกลับ ตนจึงต้องการให้ช่วยหยุดความขัดแย้ง เพื่อทำให้การถ่ายโอนสามารถเดินหน้าได้ต่อ
ด้านตัวแทนข้าราชการ รพ.สต. กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเป็นผู้ได้รับผลกระทบ ในจำนวน 245 คน ที่ยังไม่สามารถถ่ายโอนจาก รพ.สต. ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ ทำให้ได้รับผลกระทบในการทำงาน เพราะทั้ง 2 ฝั่ง ก็มีระเบียบที่ต้องปฎิบัติตาม จนขณะนี้ ตนต้องใช้วันลากับ รพ.สต. เพื่อให้สามารถไปทำงานที่ อบจ.ได้ โดยตนเป็นหนึ่งคนที่สมัครใจในการถ่ายโอน แต่เมื่อเกิดปัญหา ก็ทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จึงอยากขอให้รัฐบาล เร่งแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขอยืนยันว่า จะช่วยให้ปัญหานี้ สามารถเดินหน้าได้ต่อ แต่อะไรที่ผิด ก็ต้องหยุดก่อน แล้วหาวิธีการถ่ายโอนที่ถูกกฎหมาย และได้รับสิทธิเทียบเท่ากัน โดยตนเป็น สส. จึงต้องฟังเสียงของประชาชน รวมถึงข้าราชการชั้นผู้น้อยเป็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งตนมองว่า ตัวเลขการถ่ายโอนที่ยังมีปัญหาอยู่ขณะนี้คือ 245 คน ส่วนที่เหลือสามารถเดินหน้าต่อได้ ตนจึงขอให้ส่วนใดที่สามารถเดินหน้าได้ ก็ให้ดำเนินการต่อ แต่ส่วนที่ยังติดปัญหา ก็จะรับเรื่องร้อนใจมาหาทางออกให้ โดยต้องยอมรับว่า ตนไม่สามารถไปบังคับกระทรวงสาธารณสุขได้ แต่ก็จะพูดคุยหารือให้อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้ปัญหามีทางออกเร็วที่สุด รวมถึงจะนำปัญหานี้ หารือในที่ประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะประชุมในช่วงบ่ายของวันนี้ด้วย