‘เทียนทอง’ รีเทิร์น ใต้ร่มธง ‘ชินวัตร’ สกัดก้าวไกล
บ้านใหญ่ไม่ตกยุค ‘สรวงศ์’ นั่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทย จับตาสมรภูมิชาย แดนสระแก้ว ได้เวลาหลอมรวม ‘บ้านใหญ่เทียนทอง’
สายลมบูรพาเปลี่ยนทิศ ‘ก้าวไกล’ เขย่าสระแก้ว คว้าแชมป์ สส.บัญชีรายชื่อ หาก ‘เทียนทอง’ ยังแยกกันอยู่อาจตายหมู่ได้
การเปลี่ยนแปลงในพรรคเพื่อไทยครั้งล่าสุด ไม่เพียงแต่ลูกสาวนายใหญ่ แพทองธาร ชินวัตร จะก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สรวงศ์ เทียนทอง ลูกชายคนโตของ เสนาะ เทียนทอง ก็ได้เป็นเลขาธิการพรรค
ดังนั้น การปรับโครงสร้างเพื่อไทยหนนี้ จึงไม่ใช่การดิสรัปต์ปรับโฉมใหม่ หากแต่เป็นการกระชับอำนาจของตระกูลชินวัตร และไม่ทิ้งเครือข่าย ‘บ้านใหญ่’
จริงๆแล้ว สภาผู้แทนฯชุดปัจจุบัน มีตระกูล ‘เทียนทอง’ อยู่ในสภาฯ 4 คนแยกเป็นสายป๋าเหนาะ 2 คนคือ สรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เขต 3 และ สุรเกียรติ เทียนทอง สส.บัญชีรายชื่อ
สายนายแม่สระแก้ว 2 คนคือ ขวัญเรือน เทียนทอง สส.สระแก้ว เขต 1และตรีนุช เทียนทอง สส.สระแก้ว เขต 2 ทั้งคู่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ
สมมติว่า ตระกูลเทียนทอง 4 คน อยู่พรรคเพื่อไทย รับประกันว่า เสี่ยบอย สรวงศ์ ต้องได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งแล้ว
เมื่อไม่กี่วันมานี้ บอย สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ไทยโพสต์ว่า ในอนาคต มีความเป็นไปได้ที่ตระกูลเทียนทอง 2 สายจะกลับมาอยู่พรรคเดียวกัน
“ก็มีความเป็นไปได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน อันนี้พูดตรงๆ ก็เป็นเป้าหมายครับ ว่าอย่างน้อยเอาให้บ้านเรากลับมาเป็นเอกภาพก่อน”
นับตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 ตระกูลเทียนทอง ก็แยกเป็น 2 สายคือ สายป๋าเหนาะ และสายนายแม่สระแก้ว ก็ต้องรอดูฝีมือเสี่ยบอย จะสร้างความเป็นเอกภาพของบ้านใหญ่เทียนทองได้หรือไม่
บารมีป๋าเหนาะ
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และมีสรวงศ์ เทียนทอง เป็นเลขาธิการพรรค สภากาแฟจึงเปรียบเทียบสมัยพรรคไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร จับคู่นักปั้นชื่อ เสนาะ เทียนทอง
เสนาะ เทียนทอง ในวัย 90 ปี ได้ประกาศวางมือทางการเมืองมาหลายปีแล้ว ช่วงเลือกตั้งปี 2566 ป๋าเหนาะก็ไม่ได้ลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียงให้ลูกชาย เพราะสุขภาพไม่เอื้ออำนวย
มีข้อน่าสังเกตในวันเกิดเสนาะ เทียนทอง เมื่อปี 2565 ตรีนุช เทียนทอง ได้พาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมากราบป๋าเหนาะ และมีการเผยแพร่ภาพลุงกับหลานสาว ผ่านสื่อเป็นครั้งแรก
บอย สรวงศ์เล่าให้ฟังว่า “จริงๆ แล้ว คุณพ่อต้องอยู่ในอันดับต้นๆของผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ของเพื่อไทย แต่คุณพ่อก็ไม่เอา แล้วก็ฝากลูกชายไว้คนหนึ่งคือ สุรเกียรติ เทียนทอง มาลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อของเพื่อไทย”
หลายคนอาจไม่รู้จัก สุรเกียรติ เทียนทอง ลูกชายของป๋าเหนาะกับภรรยาคนเก่า จิตรา โตศักดิ์สิทธิ์ และสุรเกียรติ เป็นน้องชาย สุรชาติ อดีต สส.กทม.เขต หลักสี่
เสี่ยบอย บอกว่า ที่ผ่านมา สุรเกียรติ เป็นทีมงานเบื้องหลังที่สนับสนุนตัวเขาและสุรชาติ เทียนทอง มาโดยตลอด
นายแม่สระแก้ว
ขวัญเรือน เทียนทอง สส.สระแก้ว เขต 1 เข้าสภาสมัยแรก ได้กลายเป็น สส.หญิงอายุมากที่สุดของสภาชุดที่ 26 ในวัย 79 ปี
ทางชีวิตของขวัญเรือน เกิดที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มีชื่อเล่น กี ได้แต่งงานกับพิเชษฐ์ เทียนทอง น้องชายเสนาะ เทียนทอง โดยขวัญเรือน ได้รับเลือกเป็นกำนันตำบลวัฒนานคร ชาวบ้านจึงเรียกกันติดปากว่า “กำนันกี”
ภายหลัง คนสระแก้วเรียกขวัญเรือนว่า “นายแม่” เพราะเป็นแม่ของ ฐานิสร์ เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว และ ตรีนุช เทียนทอง อดีต รมว.ศึกษาธิ การ
อย่างที่ทราบกัน สส.สระแก้ว 3 คน ประกอบด้วย ขวัญเรือน เทียนทอง , ตรีนุช เทียนทอง และ สรวงศ์ เทียนทอง แม้จะนามสกุล เทียนทอง เหมือนกัน แต่ก็แยกเป็น 2 ปีกคือ สายนายแม่ และสายป๋าเหนาะ
ครอบครัวนายแม่ แยกตัวออกมาจากกงสี ส.เทียนทอง ภายใต้การนำของ เสนาะ เทียนทอง ตั้งแต่การเลือกตั้ง สส.สระแก้ว ปี 2562
ต้นเดือน มี.ค.2566 ขวัญเรือน เทียนทอง ลาออกจากนายก อบจ.สระแก้ว และส่ง ฐานิสร์ เทียนทอง อดีต สส.สระแก้ว 6 สมัย ลงสมัครนายก อบจ.สระแก้ว ซึ่งผลการเลือกตั้งนายก อบจ.สระแก้ว ฐานิสร์ ชนะขาด ได้ 131,999 คะแนน ทิ้งอันดับสองชนิดไม่เห็นฝุ่น
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ขวัญเรือน อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ ฐานิสร์ เทียนทอง คว้าเก้าอี้ สส.สระแก้ว 6 สมัย แต่อุบัติเหตุในการเมืองท้องถิ่น ทำให้นายแม่ ต้องย้ายไปลงสนาม สส. สลับกับลูกชาย
สัญญาณพายุสีส้ม
ผลการเลือกตั้ง สส.สระแก้ว ปี 2566 ตระกูลเทียนทอง ทั้งสองสายยังรักษาเก้าอี้ สส.ไว้ได้ หากเจาะลึกลงไปดูคะแนนทั้ง 2 ระบบก็พบสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในหัวเมืองชายแดนบูรพา
เขต 1 (อ.เมืองสระแก้ว อ.เขาฉกรรจ์) ขวัญเรือน เทียนทอง พลังประชารัฐ ได้ 42,106 คะแนน และ ปฐมพล สาระรัตน์ ก้าวไกล ได้ 23,918 คะแนน
เขต 2 (อ.วังน้ำเย็น อ.วัฒนานคร) ตรีนุช เทียนทอง พลังประชารัฐ ได้ 47,173 คะแนน และ ยุทธชัย รำไพวรรณ์ ก้าวไกล ได้ 27,533 คะแนน
เขต 3 (อ.อรัญประเทศ อ.ตาพระยา) สรวงศ์ เทียนทอง เพื่อไทย ได้ 53,989 คะแนน ส่วน สุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ อดีต สส.สระแก้ว พลังประชารัฐ ได้ 24,116 คะแนน และปรมินทร์ จันทรกาล ก้าวไกล ได้ 20,828 คะแนน
ตัวบ่งชี้อนาคตการเมืองสระแก้วคือ ผลคะแนน สส.บัญชีรายชื่อ ปรากฏว่า พรรคก้าวไกล มาอันดับ 1 ก้าวไกล ได้ 118,421 คะแนน อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย ได้ 93,523 คะแนน
ที่น่าผิดหวังคือพรรคพลังประชารัฐ ได้แค่ 19,796 คะแนน ทั้งที่ขวัญเรือน และตรีนุช ได้รับเลือกตั้ง และได้คะแนน สส.เขต เฉลี่ยเขตละ 4 หมื่นคะแนน
ตรงกันข้ามกับบอย สรวงศ์ เทียนทอง ที่เขต 3 ได้คะแนน สส.เขต 5 หมื่น และได้บัญชีรายชื่อกว่า 4 หมื่นคะแนน
สรุปว่า แบรนด์ลุงป้อมหรือพลังประชารัฐขายไม่ได้ แต่แบรนด์เพื่อไทยยังขายได้ และที่น่ากลัวที่สุดคือ พายุสีส้มที่เริ่มก่อตัวในหัวเมืองชายแดนสระแก้ว