'อนุฯอิสราเอล' ถก "กรมจัดหาทาง-กงสุล" หาแนวทางช่วยแรงงานไทย

'อนุฯอิสราเอล' ถก "กรมจัดหาทาง-กงสุล" หาแนวทางช่วยแรงงานไทย

อนุฯ ติดตามช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล ถก”กรมการจัดหางาน- กรมการกงสุล” หาแนวทางช่วยเหลือ -แผนอพยพแรงงานไทย พร้อมเยียวยาครอบครัวแรงงานที่ได้รับผลกระทบ

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.) ติดตามแรงงานไทยที่รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ในกมธ.การแรงงาน สภาฯ ที่มีนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เป็นประธานอนุกมธ. ประชุมติดตามการช่วยเหลือแรงงานไทย โดยเชิญตัวแทนของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เข้าให้ข้อมูล 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนของกรมการจัดหางาน ให้ข้อมูลว่า  มีแรงงานที่เดินทางกลับประเทศ จำนวน 8,815 คน และแรงงานได้มายื่นคำร้อง รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานที่ต่างประเทศ 6,661 คน โดยพิจารณาสั่งจ่ายกองทุน 2,386 คน เป็นวงเงินกว่า 37 ล้านบาท  และจากการเข้าเยี่ยมแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล พบว่ามีบางส่วนต้องการกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีก ขณะที่บางส่วนต้องการไปทำงานที่ต่างประเทศอื่นๆ 
         

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตัวแทนของกรมการกงสุล รายงานถึงสถานการณ์สู้รบว่า ยังคงรุนแรงในพื้นที่ชายแดนฉนวนกาซาและกรุงเทลอาวีฟ  ทั้งนี้อิสราเอลยังควบคุมสถานการณ์ได้ด้วยมีการเสริมกำลังรบและได้การสนับสนุนจากสหรัฐฯ

"สถานทูตได้รายงานเที่ยวบินรับแรงงานไทยจำนวน 35 เที่ยวบินที่รองรับการอพยพคนไทยกว่า 7,000 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมดำเนินการแผน 2 ซึ่งตัวเลขน่าจะคงที่หลังจากแรงงานตัดสินใจ ที่จะอยู่อิสราเอลต่อ เนื่องจากแรงงานอาจมีความมั่นใจและเคยชินกับสถานการณ์การสู้รบที่เป็นปกติ" ตัวแทนจากกรมการกงศุล รายงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าตัวแทนจากกรมการกงสุลเปิดเผยด้วยว่า วันที่ 9 พ.ย.นี้ มีรายงานว่าอีก 8 ศพเดินทางกลับถึงประเทศไทย  

ทั้งนี้คณะอนุกมธ.ฯ ยังแสดงความกังวลถึงข้อมูลข่าวที่มีสื่อรายงานว่ารายงานบางส่วนกลายเป็นทหารรับจ้าง ซึ่งจะต้องสอบถามด้วย รวมถึงแนวทางการดำเนินการอพยพแรงงานไทยกับประเทศ และการสื่อสารเพื่อให้แรงงานกลับประเทศ รวมถึงการติดตามช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิต แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย โดยมีทายาทร่วมกันเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์  

อย่างไรก็ดีในวันที่ 9 พ.ย. อนุกมธ.ฯเตรียมลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมครอบครัวของผู้ที่สูญเสียชีวิตและครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบ ที่จ.อุดรธานี.