สมศักดิ์ เล็งออกกฎหมาย ให้ท้องถิ่นหารายได้เพิ่ม ลุย แก้จน ด้วยจีนโมเดล
“สมศักดิ์” ชี้ ถ่ายโอน รพ.สต. ขึ้นกับ อบจ. ติดกับดักกฎหมาย กำชับ ท้องถิ่นเร่งสรุปปัญหา หวัง แก้ตรงจุด จ่อออกกฎหมาย เปิดทางหารายได้เพิ่ม จะได้บริหารจัดการตนเองได้ กระจายอำนาจอย่างแท้จริง สั่งเก็บสถิติประชากร ลุยแก้จน นำร่อง จชต. ตามโมเดลจีน
ที่โรงแรมที.เค.พาเลซ แอนด์คอนเวนชั่น กทม. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ โครงการอบรมสัมมนาวิชาการ เรื่อง “หนึ่งปีกับการถ่ายโอน สอน. และ รพ.สต. สู่ อบจ.” โดยมี นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีนายกิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายบุญชู จันทร์สุวรรณนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย นายชูพงศ์ คำจวง อุปนายกสมาคมอบจ. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย ในเรื่องการถ่ายโอนต่างๆ ซึ่งตนมองว่า ในเมื่อทุกท่านเหน็ดเหนื่อยแล้ว ก็ต้องรวมพลังกันสู้ เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายได้ เพราะขณะนี้ ทุกท่านก็ทราบกันดีว่า การถ่ายโอน ได้ติดกับดักทางกฎหมาย จึงทำให้การถ่ายโอนบางหน่วยงานไม่ถึงเป้าหมาย เนื่องจากทั้งผู้ถ่ายโอน และผู้รับโอน มีการตีความกันคนละแง่มุม ดังนั้น การแก้ปัญหา ตนอยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะท้องถิ่น เร่งรวบรวมสรุปปัญหาแบบเข้าใจง่าย ตนจะได้เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งถ้ายังปล่อยให้ล่าช้า ก็จะมีปัญหาตามมาอีกจำนวนมาก ทั้ง งบประมาณ และความเครียดของบุคลากร ใน 5 กลุ่มงานที่มีปัญหา
“ก่อนหน้านี้ มีเจ้าหน้าที่ 222 คน ที่ยังติดปัญหาการโอนย้าย ผมก็ช่วยหาทางออก ซึ่งเมื่อจบแล้วเรื่องหนึ่ง แต่ก็ยังมีปัญหาตามมาอีก คือ อาคารสถานที่ ไม่สามารถโอนย้ายตามได้ ผมจึงขอให้ทุกคนช่วยกันแก้ปัญหา โดยช่วยกันสรุปปัญหา เพื่อจะได้เห็นภาพรวมของปัญหา เพราะอบจ. ที่ถ่ายโอน รพ.สต.เสร็จ 100% เช่น ร้อยเอ็ด ขอนแก่น หนองบัวลำภู สุพรรณบุรี ชลบุรีระยอง แต่ก็ยังพบปัญหาตามมาหลังการถ่ายโอน คือ ด้านงบประมาณ เนื่องจาก อบจ.บางจังหวัด มีรายได้น้อยกว่า อบต.ของบางจังหวัดอีก เพราะต้องยอมรับว่า วิธีการหาเงินเข้างบประมาณ ยังเป็นวิธีเก่าอยู่ ผมจึงพยายามจะออกกฎหมายหลายฉบับ เพื่อช่วยหารายได้เข้าประเทศ หรือ ท้องถิ่น ซึ่งถ้าท้องถิ่นมีรายได้สูง ก็จะสามารถบริหารจัดการตัวเองได้ หรือเป็นการกระจายอำนาจอย่างแท้จริง” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในเมื่อได้มีโอกาสพบปะกับผู้นำท้องถิ่น ตนก็อยากเน้นย้ำว่า ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ โดยเฉพาะการผลักดันทำฝายซอยซีเมนต์ และธนาคารน้ำใต้ดิน จึงขอให้ทุกหน่วยงาน เร่งสำรวจพื้นที่ ในการทำฝาย หรือ ธนาคารน้ำใต้ดิน เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง โดยขณะนี้ มีงบประมาณพร้อมขับเคลื่อนแล้ว จึงขอให้ท้องถิ่นรีบส่งโครงการเข้ามา ซึ่งวันนี้ ตนก็ได้เชิญ สทนช.มาร่วมรับฟังปัญหาด้วย รวมถึงอยากให้ท้องถิ่น ช่วยกันทำข้อมูลผู้มีรายได้น้อย เพราะการแก้จน สิ่งสำคัญคือ การมีสถิติที่ชัดเจน โดยเรื่องนี้ ตนได้รับคำแนะนำมาจากจีน ที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งเรื่องนี้ตนก็กำลังขับเคลื่อนในจังหวัดชายแดนใต้ จึงเชิญเลขาธิการศอ.บต.มาร่วมงานในวันนี้ด้วย เนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญที่ตน ต้องการขับเคลื่อนแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม