รหัส9/9 เส้นตาย‘ผู้นำสีฟ้า’ เดิมพัน2 ขั้ว ‘ตัดบัวไม่เหลือใย’

ถึงกับงุนงงกันทั้งบาง! หลังจู่ๆ ปรากฏชื่อ “เสี่ยตุ้ม” นราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปรากฏอยู่ในกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ ในตำแหน่ง “รักษาการหัวหน้าพรรค” แทนที่จะเป็น “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รักษาการหัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน

เวลาต่อมา “จุรินทร์” ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่มพรรค ประกาศ “ลาออก” จากตำแหน่ง “รักษาการหัวหน้าพรรค” เพื่อให้การประชุมใหญ่เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดำเนินการไปโดยสิ้นข้อสงสัยในเรื่องข้อกฎหมาย กรณีปรากฏชื่อ “นราพัฒน์” อยู่ในกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองเป็นผู้รักษาการหัวหน้าพรรค แม้ในเวลาต่อมาได้เอาชื่อออกไปก็ตาม

กรณีที่เกิดขึ้นแม้ในมุมของ “โฆษกพรรคสีฟ้า” อย่าง “ราเมศ รัตนเชวง” จะบอกว่าน่าจะเกิดจากความคลาดเคลื่อน และเชื่อว่าทุกคนไม่ได้มีเจตนาร้าย

ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวะพอเหมาะพอเจาะเช่นนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าถูกจับตาไปที่ “ศึก 2 ขั้วค่ายสีฟ้า” ที่ยามนี้ยังอยู่ในโหมดการช่วงชิงตำแหน่ง “ผู้นำพรรคคนที่9” หลังว่างเว้นมานานกว่า 7 เดือน นับตั้งแต่การประกาศลาออกของจุรินทร์ เมื่อช่วงดึกวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ศึกชิงผู้นำสีฟ้า เกิดเกม “ล้มโหวต” มาแล้วถึง 2 ครั้ง  

คล้อยหลังจุรินทร์ประกาศลาออกไม่นาน “เสี่ยตุ้ม” นราพัฒน์ หนึ่งในผู้ท้าชิงออกตัว “มีความตั้งใจที่จะเข้ามาดูแลพรรค”  

ย้อนที่มาที่ไปกลับไปตั้งแต่การประชุมใหญ่พรรครอบแรก “เสี่ยตุ้ม” ได้รับการสนับสนุนจาก สส.กลุ่ม “เลขาฯ ต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค พร้อม สส.ในคาถา 21 จาก 25คน งัดเกมโหวตเตอร์ 70 : 30 (เสียง สส. 70% : สมาชิกพรรค 30%) หวังส่งขึ้นแท่น “ผู้นำพรรคสีฟ้า”

แต่ดันเจอ “ซ้อนแผน” ด้วยการ “ล้มโหวต” จากกลุ่มสนับสนุน “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่เดินเกมโดย “2 ลุงสีฟ้า” ทั้ง “ชวน หลีกภัย” และ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” สส.บัญชีรายชื่อ หลังเสนอยกเว้นข้อบังคับ โหวตเตอร์ 70 : 30 ไม่เป็นผล

“เกมล้มโหวต” ที่เกิดในค่ายสีฟ้าถึง 2 ครั้ง 2 ครา ทิ้งไว้ซึ่งรอยร้าวรอยใหญ่ ขยายวงกว้าง โดยเฉพาะห้วงที่มีการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงโหวตเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ที่ต่างฝ่ายต่างฟาดฟันถึงขั้นไล่พ้นพรรค ด้วยการ “ขับออก” หลังโหวตสวนมติพรรค

 เล่นแรงถึงขั้นปล่อยข่าว! “กลุ่มก๊วน ปชป.” เตรียมยกทีมลาออก โดยปลายทางมีทั้งเพื่อไทย พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย ทว่าเมื่อไล่เช็กเป้าหมายปลายทางดูแล้ว “บิ๊กเนมพรรคร่วมรัฐบาล” บางพรรคเอ่ยปากแบบทีเล่นทีจริง  

“ที่มีอยู่ก็แทบจะดูแลไม่หวาดไม่ไหวอยู่แล้ว จะเอาไปเพิ่มอีกทำไม เร็ววันนี้ไม่มีแน่นอน ถ้าใกล้เลือกตั้งค่อยว่ากันอีกที”

ไม่ต่างจากฝั่ง “ชวน” ก่อนหน้ามีการ “ปั่นกระแส” เตรียมดำรงตำแหน่งสำคัญระดับสูง เหนือตำแหน่งทางการเมือง ก่อนที่ต่อมาคนใกล้ชิดจะออกมาชี้แจง “ไม่มีมูล” แม้แต่น้อย 

แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า ทำให้มีการจับตาไปที่การโหวต “ผู้นำสีฟ้า” รอบ 3 ซึ่งแกนนำพรรคตั้งเป้าว่าจะต้อง “ปิดจ๊อบ” ให้ได้ก่อนปีใหม่ เพื่อไม่ให้จวนเจียน “เส้นตาย 1 ปี” ตามที่กฎหมายกำหนด

“แกนนำพรรค” ยอมรับว่าการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3 ซึ่งมีการคาดหมายว่าจะต้องจบก่อนปีใหม่จะต้องเคลียร์ปัญหาในพรรคให้จบให้ได้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาองค์ประชุมล่มเป็นรอบที่ 3

โดยเฉพาะประเด็นการใช้สัดส่วนการโหวตของ สส.กับสมาชิกพรรค ที่ 70 : 30 ต้นตอเกมล้มโหวต 2 ครั้งที่ผ่านมา เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความสุ่มเสี่ยง เนื่องจาก ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ระบุให้มีการจัดประชุมใหญ่ภายใน 1 ปี ซึ่งจะไปครบกำหนดในช่วงเดือน เม.ย.2567 ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้พรรคต้องสิ้นสภาพลงได้

ทำให้ที่ผ่านมา จึงมีความพยายามในการหาตัวกลางเพื่อพูดคุยหาจุดร่วมระหว่าง 2 ขั้ว โดยเฉพาะตำแหน่งหัวหน้าพรรค หากที่สุด “ขั้วเสี่ยต่อ” ที่เวลานี้รวบเบ็ดเสร็จทั้งรักษาการหัวหน้าและเลขาธิการพรรค และ “ขั้วนายหัวชวน” ยังพอมีเยื่อใย ไม่ถึงกับตัดขาด 

ก็ยังมีอีกชอยส์ที่ตัดทิ้งไม่ได้เช่นกัน นั่นคือกลุ่ม “คนรุ่นใหม่” โปรไฟล์ดีๆ และสามารถเชื่อมความสัมพันธ์ได้ทั้ง 2 กลุ่ม และที่สำคัญนอกเหนือจะมี “กระแส” แล้ว ยังต้องมี “ต้นทุน” -มี “กระสุน” อยู่พอตัวอีกด้วย 

ไม่ต่างจากตำแหน่ง "เลขาธิการพรรค" ที่ต้องจับตา จากเดิมที่วางตัว “เดชอิศม์ ขาวทอง” รักษาการรองหัวหน้าพรรค ในบทบาท "แม่บ้านพรรค" คนใหม่ 

ทว่าเขายังมีชนักติดหลัง ทั้งคดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย จ.สงขลาซึ่งคนในครอบครัวเข้าไปมีส่วนพัวพัน  ยังไม่นับรวมกรณีถูกโยงไปที่ธุรกิจสีเทา หนักไปกว่านั้นยังถูกจับตาไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและ “เชาวลิต ทองด้วง”  หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” ที่แหกคุกและกำลังหนีการตามล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แม้ว่าก่อนหน้า “เดชอิศม์” จะออกมาชี้แจงประเด็นนี้ ยอมรับรู้จักและเคยเจอเสี่ยแป้งจริงแต่ไม่ได้สนิทสนม ทว่าประเด็นนี้อาจเป็นอีกหนึ่งจุดตายที่ถูกนำมาใช้ดับฝัน“เดชอิศม์”ในการขึ้นแท่นเลขาธิการพรรคได้  

ล่าสุดกรรมการบริหารพรรคมีมติกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่9ธ.ค. 

ใกล้ครบกำหนดเส้นตาย1ปี“ศึกสีฟ้า”ยิ่งต้องจับตาอย่างยิ่งยวด “รหัส9/9”  โหวตผู้นำพรรคสีฟ้า “คนที่9” วันที่9ธ.ค.นี้ ต้องไปลุ้นกันว่าที่สุด “พรรคประชาธิปัตย์” ในฐานะพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดจะจบศึกที่เรื้อรังมาอย่างยาวนานอย่างไร ระหว่างหาจุดร่วมที่ “สมประโยชน์” ร่วมกัน แบบวิน-วิน หรือจะเลือก “แตกหัก” กันไปข้างหนึ่งให้รู้แล้วรู้รอด!