‘ไอซ์ รักชนก’ ลุ้นอีก! ศาล รธน.นัด 29 พ.ย.ชี้ขาด พ.ร.บ.คอมฯขัด รธน.หรือไม่
‘ไอซ์ รักชนก’ ลุ้นระทึก! ศาล รธน.นัด 29 พ.ย.ลงมติชี้ขาด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังมีชนักปักในศาลอาญาอีกคดี ปมถูกกล่าวหาผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ-ม.112
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2566 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่น่าสนใจของประชาชน โดยเรื่องพิจารณาที่ 20/2566 กรณีพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และมาตรา 34 หรือไม่
กรณีนี้ศาลอาญาส่งคำโต้แย้งของจำเลย (น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล) ในคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ 683/2565 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 255- มาตรา 14 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และมาตรา 34 หรือไม่
ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 5 8 วรรคหนึ่ง กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันพุธที่ 29 พ.ย. 2566 เวลา 19.30 นาฬิกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 683/2565 ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาลอาญานั้น มี น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ “ไอซ์” อดีตสมาชิกกลุ่ม “คลับเฮ้าส์เพื่อประชาธิปไตย” ปัจจุบันเป็น สส.กทม. พรรคก้าวไกล ตกเป็นจำเลย ในความผิดตามข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยมีมณีรัตน์ เลาวเลิศ เป็นผู้กล่าวหา
สำหรับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 ระบุว่า ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)
ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทําต่อประชาชน แต่เป็นการกระทําต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผู้กระทํา ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความได้